posttoday

อสังหาปีหน้าอ่วมส่อทรงตัว

08 ธันวาคม 2561

ศุภาลัยระบุนักลงทุนจีนหาย-ดอกเบี้ยขึ้น-แอลทีวี ชาญอิสระผุด6โครงการ6พันล.

ศุภาลัย ชี้ตลาดรวม อสังหาฯ ปี 2562 ทรงตัว คอนโดกระทบเกือบ 10% แย้มแผนพัฒนาโครงการทั้งแนวราบ-สูงปีหน้ามูลค่ารวม 4 หมื่นล้าน

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2562 อาจทรงตัวจากปัจจัยต่างๆ เช่น นักลงทุนจีนหายไป ดอกเบี้ยขาขึ้น อีกทั้งมาตรการกำหนดสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันหรือ แอลทีวีของธนาคารแห่งประเทศไทย จะทำให้อสังหาฯ แนวราบปีหน้าไม่โต โดย จะกระทบมากคือบ้านเดี่ยวระดับ 3-7 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการซื้อเป็นหลังที่ 2 และ 3 ที่เกิดจากความต้องการขยายครอบครัว ส่วนทาวน์โฮมยังไปได้ เพราะส่วนใหญ่ซื้อเป็นบ้านหลังแรก

นอกจากนี้ การพัฒนาโครงการแนวราบส่วนมากเป็นการสร้างเสร็จพร้อมขาย รอบสั้นกว่าคอนโดมิเนียม เงินสดน้อย และขอสินเชื่อยาก เช่น ซื้อบ้านราคา 5 ล้านบาท ต้องดาวน์ 1 ล้านบาท ผ่อนเดือนละ 1.6 แสนบาท เป็นต้น คาดว่าตลาดแนวราบจะหายไปราว 10%

ขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียมคาดว่าจะได้รับผลกระทบไม่เกิน 10% สำหรับคอนโด ต่ำกว่า 10 ล้านบาท มีสัญญากู้ที่ 2 และ 3 สัดส่วนเพียง 20% ของสัญญากู้ทั้งหมด รวมทั้งลูกค้าที่เป็นคนไทยกู้ไม่ถึง 80% จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์แอลทีวี ส่วนคนต่างชาติก็ไม่กู้สถาบันการเงิน ดังนั้นดีเวลอปเปอร์จะแก้ปัญหาโดยการเก็บดาวน์มากขึ้น

นายไตรเตชะ กล่าวว่า ส่วนแผนธุรกิจปี 2562 บริษัทเตรียมพัฒนาโครงการ ทั้งแนวราบและสูงมูลค่ารวม 4 หมื่น ล้านบาท ใกล้เคียงกับเป้าที่ตั้งไว้ในปีนี้ โดยเป็นคอนโด 5-6 โครงการ มูลค่ารวมราว 2 หมื่นล้านบาท ที่เหลือเป็นแนวราบ ด้านการพัฒนาคอนโดจะเน้นราคาขาย ต่ำกว่าแสนบาท/ตารางเมตร เพราะ ความต้องการกลุ่มนี้มีมาก ขณะที่ตลาดอสังหาฯ ต่างจังหวัด มองว่า ภาพรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากซัพพลายน้อยจากการเปิดตัวโครงการใหม่มีจำกัด

นายสงกรานต์ อิสสระ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ เปิดเผยถึงทิศทางอสังหาฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่า การแข่งขันอาจจะมีความคึกคัก ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยกระทบจากภาคการท่องเที่ยว ที่ตัวเลขตกลงในช่วง 2-3 เดือนมาแล้ว อีกทั้งชาวจีนมีการซื้อคอนโดเมืองไทย ลดลง เนื่องจากสงครามการเงินระหว่างจีนกับสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคการค้าที่จะมีการวางกฎเกณฑ์เรื่องของการนำเงินออกนอกประเทศมากขึ้น

ด้านมาตรการคุมเข้มของแบงก์ชาติในการปล่อยสินเชื่อ ก็จะมีผลกระทบต่อโครงการที่อยู่ในระดับล่าง-ระดับกลางที่อาจจะได้รับการอนุมัติการกู้จากแบงก์ที่ยากขึ้น อย่างไรก็ดีบริษัททำการตลาดเพื่อระบายสต๊อกสินค้าในกลุ่มระดับกลาง-ล่างมาตลอดทั้งปี อีกทั้งโครงการต่างๆ ของบริษัทเน้นสินค้าระดับไฮเอนด์ จึงส่งผลให้มาตรการดังกล่าวของแบงก์ชาติที่ออกมาไม่ได้มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจมากนัก

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2562 บริษัทเตรียมพัฒนา 6 โครงการ มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งโครงการใหม่และโครงการส่วนต่อขยาย เช่น คอนโดมิเนียมหรูย่านถนนจันทน์-สาทร มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ส่วน ต่อขยายโรงแรมบาบา บีช คลับ หัวหิน เมนโฮเต็ล อาคารสูง 12 ชั้น 50 ห้อง มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท โครงการบ้านพักตากอากาศ พูลวิลล่า 7 หลัง ภายในโครงการทิวทะเลเอสเตท มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท.

*ภาพประกอบเนื้อหาข่าว*