posttoday

ก่อสร้างไทยขาขึ้น รัฐหนุนยกระดับการแข่งขัน

22 พฤศจิกายน 2561

ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในปี 2561 ถือว่าตลาดคึกคักเป็นอย่างมาก

เรื่อง...โชคชัย สีนิลแท้ 

ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในปี 2561 ถือว่าตลาดคึกคักเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีปริมาณงานก่อสร้างออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตต่อเนื่องตลอดช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา เห็นได้จากตัวเลข 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ มูลค่าก่อสร้างมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 9.48 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 4.18% ในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นงานจากภาครัฐ 5.27 แสนล้านบาท เติบโตขึ้น 3.17% ส่วนงานภาคเอกชน 4.18 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.49%

จักรพร อุ่นจิตต์ ผู้อำนวยการสถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในช่วงไตรมาสแรกปี 2561 งานก่อสร้างของภาครัฐจะติดลบ 0.15% เนื่องจากมีงานก่อสร้างหรือเมกะโปรเจกต์ออกมาค่อนข้างมากในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้า ซึ่งเห็นได้จากตัวเลขในปี 2558 งานก่อสร้างภาครัฐเติบโตขึ้น 28% เมื่อเทียบกับปี 2557 งานก่อสร้างภาครัฐในปี 2559 เติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปี 2558 มาในปี 2560 งานก่อสร้างภาครัฐนั้นติดลบ 2.26% ถือเป็นปีที่มีการปรับฐาน

ทั้งนี้ ตัวเลขในปี 2561 ในไตรมาส 2 ตัวเลขงานภาครัฐมีการขยายตัว 4.84% ในช่วงไตรมาส 3 งานภาครัฐขยายตัว 5.03% รวมทั้ง 3 ไตรมาส งานภาครัฐขยายตัว 3.17% ขณะที่งานก่อสร้างภาคเอกชนนั้นมีการขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 6 ไตรมาส ติดต่อกันแต่หากพิจารณาในไตรมาสแรกปี 2561 มีการเติบโตเป็นบวก 4.57% ไตรมาส 2 อยู่ที่ 4.66% ไตรมาส 3 อยู่ที่ 7.24% ตัวเลขงานก่อสร้างภาคเอกชน 3 ไตรมาสเติบโต 5.49% ประเมินว่าทั้งปี 2561 อุตสาหกรรมก่อสร้างจะมีมูลค่า 1.3 ล้านล้านบาท จากปี 2560 มูลค่างานก่อสร้างอยู่ที่ 1.21 ล้านล้านบาท

สำหรับงานก่อสร้างภาคเอกชนที่เติบโตขึ้นนั้นอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม โรงแรม และอาคารสำนักงาน หรือโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส ที่รวมธุรกิจค้าปลีก ส่วนปัญหาแรงงานแม้ว่าจะเริ่มมีการนำเทคโนโลยีการก่อสร้างมาใช้มากขึ้นเพื่อลดการใช้แรงงาน ทำให้ตัวเลขการใช้แรงงานในแต่ละไตรมาสในปีนี้ลดลงไม่มากนัก ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังปี 2561 จะมีการใช้แรงงานมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เห็นได้จากในช่วงไตรมาส 3 งานก่อสร้างของภาคเอกชนออกมาค่อนข้างเยอะ คาดว่าจะใช้แรงงานก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 2.1 ล้านคน

ก่อสร้างไทยขาขึ้น รัฐหนุนยกระดับการแข่งขัน

ปัจจัยเสี่ยงในอุตสาหกรรมก่อสร้างนั้นต้องจับตากลุ่มลูกค้าชาวจีนที่มาซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองจะมีปริมาณที่ลดลง เนื่องจากปัญหาค่าเงินหยวนและสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ที่จะกระทบกับการตัดสินใจนำเงินออกมาลงทุนในต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็มีปัจจัยเสี่ยง
อื่นๆ คือการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในการก่อสร้าง และนวัตกรรมใหม่ที่นำมาใช้ ซึ่งผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่และรายกลางจะปรับตัวได้ค่อนข้างไวส่วนผู้ประกอบการรายขนาดเล็กจะต้องปรับตัวไปเป็นซับคอนแทรกเตอร์เพื่อรับงานให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่และรายกลาง

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมงานก่อสร้างในปี 2562 นั้นในช่วงไตรมาสแรกอาจจะซึมไปเล็กน้อย เนื่องจากตรงกับช่วงเลือกตั้ง และคาดว่าจะกลับมาคึกคักหลังจากเข้าสู่ไตรมาส 2 ที่ต้องมีการฟอร์มรัฐบาล

จักรพร กล่าวว่า แผนงานของสถาบันการก่อสร้างนั้น จะให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์มาตรฐานผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุและเพื่อคนพิการ โดยร่วมกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เหมือนกับเป็นการยกร่างมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จากที่ผ่านมาไม่มีการจัดทำมาตรฐานสินค้าเพื่อผู้สูงอายุและผู้พิการ ปัจจุบันมีสินค้าเพื่อผู้สูงอายุและคนพิการออกมาแล้วจำนวน 14 รายการ มีการขึ้นทะเบียนสินค้าแล้ว 60 ผลิตภัณฑ์ เริ่มจากสินค้าในกลุ่มห้องน้ำ อาทิ อ่างล้างหน้า โถส้วม ก๊อกน้ำ ราวจับ กลอนประตู
โถปัสสาวะ เป็นต้น ก่อนที่จะขยายไปยังสินค้าในหมวดอื่นต่อไป โดยสินค้ากลุ่มดังกล่าวนั้นจะมีโลโก้มาตรฐานสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการด้วย

ขณะเดียวกันสถาบันการก่อสร้างยังเน้นการให้ความรู้กับผู้รับเหมาก่อสร้าง แรงงานภาคการก่อสร้าง โดยเฉพาะการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อผู้สูงอายุและคนพิการ รวมไปถึงการวางมาตรฐานการออกแบบที่อยู่อาศัยที่มีผู้สูงอายุ และต้องอยู่อาศัยกับคนในครอบครัวที่จะต้องคำนึงถึงการใช้ประโยชน์ที่เหมาะสม

นอกจากนี้ยังร่วมมือกับสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการผลักดันให้เกิดสภาการก่อสร้าง ซึ่งมีการผลักดันกันมานานแต่ยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างมีการเปลี่ยนแปลงนายกสมาคมใหม่ ปัจจุบันเริ่มมีการยกร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวแล้ว รวมไปถึงการร่วมกับกรมบัญชีกลางในการปรับปรุงราคากลางงานก่อสร้างงานภาครัฐและการรวบรวมข้อมูลงานก่อสร้าง

เหล่านี้คือการยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างและเพิ่มขีดความสามารถคนไทยให้สามารถแข่งขันได้ระยะยาว