posttoday

‘บางนา-ตราด’ฮอต คอนโดเล็งผุดหมื่นยูนิต

06 พฤศจิกายน 2561

“บางนา-ตราด” ถือว่าเป็นทำเลศักยภาพสูงในปัจจุบันและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

โดย...อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

“บางนา-ตราด” ถือว่าเป็นทำเลศักยภาพสูงในปัจจุบันและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากภายในพื้นที่มีโครงการขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจกต์ระดับหลายหมื่นล้านที่มีแผนพัฒนาในระยะเวลาอันใกล้นี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการแบงค็อก มอลล์ มูลค่าการลงทุนรวมอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท บนพื้นที่ราว 100 ไร่ ภายในโครงการมีแผนพัฒนาเป็นอาคารศูนย์การค้า ศูนย์แสดงสินค้า สวนสนุก สวนน้ำ คอนโดมิเนียม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อาคารสำนักงานให้เช่า คาดว่าเปิดให้บริการภายใน 5 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ ยังมีโครงการมิกซ์ยูสเมกาซิตี้บางนา ด้วยงบลงทุนกว่า 6.7 หมื่นล้านบาท รวมกับศูนย์การค้าเมกาบางนา โดยเฟส 2 จะประกอบด้วยศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม 2 แห่ง คอนโดพักอาศัยบนพื้นที่ทั้งหมด 400 ไร่

อีกทั้งโครงการมิกซ์ยูสเดอะ ฟอเรสเทียส์ บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 9 หมื่นล้านบาท มีพื้นที่ก่อสร้างรวมกว่า 6 แสนตารางเมตร (ตร.ม.) แบ่งเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ 1.8 แสน ตร.ม. ประกอบด้วยคอมมูนิตี้มอลล์ อาคารสำนักงานให้เช่า ศูนย์การแพทย์ระดับ 6 ดาว โรงแรมบูทีค 6 ดาว และโรงแรม 4 ดาว ศูนย์เรียนรู้ โรงเรียนอนุบาล อาคารนวัตกรรมแห่งอนาคต โดยเริ่มต้นการก่อสร้างในปี 2561 และจะแล้วเสร็จภายในปี 2565

ขณะเดียวกันยังมีแผนลงทุนโครงการสร้างพื้นที่ฐานอย่างโครงการรถไฟฟ้าสายบางนา-สุวรรณภูมิ ซึ่งจะกำหนดอยู่ในแผนแม่บทรถไฟฟ้าระยะที่ 2 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการประเมินความเหมาะสมและดึงเอกชนเข้าร่วมทุน รถไฟฟ้าสายนี้จะเชื่อมมาจากรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สายสุขุมวิท) ที่สถานีบางนา ซึ่งระยะทางราว 18.3 กิโลเมตร มี 14 สถานี คาดจะรองรับผู้โดยสารได้ราว 4 หมื่นคน/วัน ตั้งแต่สถานีบางนาจนไปถึงสถานีสุวรรณภูมิใต้

สำหรับสถานีศรีเอี่ยมจะเป็นสถานีอินเตอร์เชนเชื่อมต่อกับสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง (ถนนศรีนครินทร์) นอกจากนี้บริเวณสถานีธนาซิตี้จะเป็นโรงจอดรถและซ่อมบำรุงบนพื้นที่ 29 ไร่ ทำให้เชื่อมั่นว่าตลาดที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดจะมีซัพพลายใหม่เกิดขึ้นในรัศมีรอบ 14 สถานี

พร้อมกันนี้ ในบริเวณบางนา-ตราด ช่วง กม.19-23 จะกลายเป็นโลจิสติกส์ฮับที่สำคัญเป็นที่ตั้งของศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทขนาดใหญ่มีพื้นที่โกดังเก็บสินค้ารวมประมาณ 1.2 ล้าน ตร.ม. และยังเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมาก

ทั้งนี้ ในอนาคตพื้นที่บางนา-ตราดบริเวณ กม.ที่ 32.5 จะมีโครงการอสังหาฯ เพื่อการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เต็มรูปแบบบนพื้นที่จำนวน 4,300 ไร่ เกิดขึ้นด้วย

เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า ย่านบางนา เป็นทำเลที่อยู่ใกล้ซีบีดีมากที่สุดย่านหนึ่ง โดยมีทางด่วนมอเตอร์เวย์เชื่อมต่อถนนสุขุมวิทเพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ อีกทั้งในอนาคตยังมีโครงการ
ขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลายโครงการส่งผลศักยภาพทำเลนี้มีแนวโน้มขยายตัวและเติบโตอย่างมาก

ทั้งนี้ โซนบางนาเป็นพื้นที่ของแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่มีบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมที่มีราคาค่อนข้างสูงโดยบ้านเดียวระดับ 30-50 ล้านบาทหลายโครงการ ในขณะที่ซัพพลายคอนโดในพื้นที่ตั้งแต่ปี 2552-ต.ค. 2561 มีจำนวนรวม 7,836 ยูนิต มีอัตราการขายอยู่ที่ 94% เป็นคอนโดตลาดเกรดซี

ส่วนคอนโดไฮไรส์เกรดบี ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2560-2561 ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ราว 1.2 แสนบาท/ตร.ม. ทั้งด้วยราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงต่อเนื่องทำให้โครงการแนวราบทำได้ยากและหากมีพัฒนาก็ต้องเข้าไปอยู่ในซอย คาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีซัพพลายคอนโดเพิ่มไม่น้อยกว่า 1 หมื่นยูนิต

ขณะที่ล่าสุด บริษัท เสนา ฮันคิว ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนได้เปิดตัวโครงการ นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท บนพืื้นที่กว่า 3 ไร่ เป็นคอนโดสูง 40 ชั้น 1 อาคาร 795 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต พร้อมอาคารจอดรถ 8 ชั้น 1 อาคาร ขนาดห้องเริ่มต้น 30 ตร.ม. ราคาขายเริ่ม 2.2 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ย 8.3 หมื่นบาท โดยเตรียมเปิดพรีเซลในวันที่ 17 พ.ย.นี้ ตั้งเป้ายอดขาย 60-65%

สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นเฟสแรกของแผนพัฒนาโครงการทั้งหมด 8 ไร่ โดยมาสเตอร์แพลนนอกจากคอนโด 3 อาคารแล้วจะมีทั้งโรงแรมและออฟฟิศกว่า 2 หมื่น ตร.ม. มูลค่าลงทุนรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท ใช้เวลาพัฒนา 7-8 ปีจากนี้

เกษรา กล่าวว่า แผนธุรกิจในปี 2562 นั้น บริษัทมีแผนเปิดโครงการไม่น้อยกว่า 20 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นโครงการร่วมทุน 11 โครงการ มูลค่ารวม 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีจำนวนโครงการ มูลค่า และจำนวนยูนิตเพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่มีการพัฒนา 17 โครงการ มูลค่าราว 2.3 หมื่นล้านบาท จากที่ผ่านมาจะพัฒนาโครงการอยู่ที่ 6-7 โครงการ มูลค่าราว 4,000-5,000 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ในปีหน้าบริษัทมีแผนลงทุนเพื่อสร้างรายได้ระยะยาวไม่ว่าจะเป็นโรงแรมและออฟฟิศให้เช่า เพื่อเพิ่มพอร์ตรายได้จากอสังหาฯ เช่าเป็น 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3-4%

ด้านแบ็กล็อกขณะนี้บริษัทมีราวหมื่นล้านบาทซึ่งจะทยอยรับรู้ ส่วนยอดขายตั้งเป้าไว้ที่กว่า 1.03 หมื่นล้านบาท และเป้ารายได้ 6,200 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน