posttoday

ผ่าทำเล'สุขุมวิท 39' โซนคอนโดโลว์ไรส์หรู

13 กันยายน 2561

ฮาบิแทท ผุดคอนโดโลว์ไรส์หรูในซอยสุขุมวิทสวนทางตลาดริมข่ายรถไฟฟ้า ชูผลตอบแทนค่าเช่า 5-7% ดึงนักลงทุน

โดย...อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยเฉพาะในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี) ยังเป็นที่สนใจของผู้ซื้อทั้งคนไทยและต่างชาติ เพราะให้ผลตอบแทนการปล่อยเช่าสูงเฉลี่ยประมาณ 4-5% และกำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) อยู่ที่ราว 3-5% ต่อปี สำหรับการลงทุน อสังหาฯ ประเภทคอนโดระดับราคา 7-8 ล้านบาท ซึ่งผลตอบแทนจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับในหลายๆ ประเทศ

สำหรับย่านสุขุมวิทใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งเป็นทำเลที่มีความต้องการสูงแม้ราคาที่ดินจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งที่ดินแปลงใหญ่หายาก ส่งผลต่อต้นทุนการพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้น โดยราคาคอนโดมิเนียมในปัจจุบันบนรัศมี 3 สถานีหลัก คือ ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก มีราคาอยู่ที่ 2.71-2.92 แสนบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) ขณะที่ราคาที่ดินปรับขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ย 5-10%

ชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดระดับบนยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นสินค้าได้รับความสนใจอย่างมาก ทั้งจากผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและกลุ่มนักลงทุนคนไทยและต่างชาติ ขณะที่ทำเลที่มีศักยภาพมีค่อนข้างจำกัด ดังนั้นการพัฒนาจะเป็นโครงการขนาดใหญ่จำนวนยูนิตมาก

ทั้งนี้ บริษัทเห็นช่องว่างทางการตลาดที่จะทำตลาดคอนโดมิเนียมลักซ์ ชัวรี่โลว์ไรส์ทำเลในซอย โดยมีจำนวนห้องประมาณ 100 ยูนิต ราคาขายไม่เกิน 2 แสนบาท/ตร.ม. เน้นกลุ่มนักลงทุนทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและปล่อยเช่า

พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวโครงการล่าสุดคือ "วาลเด้น สุขุมวิท 39" มูลค่าโครงการ 950 ล้านบาท หลังประสบความสำเร็จแบรนด์วาลเด้นโครงการแรกบนทำเลอโศก ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับที่ดีและมียอดขายไปแล้ว 90%

โครงการล่าสุดดังกล่าวจะพัฒนาในรูปแบบโครงการคอนโดมิเนียม ลักซ์ชัวรี่โลว์ไรส์เพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุน จำนวน 1 อาคาร สูง 8 ชั้น 116 ยูนิต บนเนื้อที่ 0-3-22 ไร่ อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 34.56 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่ 1.9 แสนบาท/ตร.ม. โดยบริษัทเตรียมจัดเอ็กซ์คลูซีฟ บุ๊กกิ้งเดย์ ในวันที่ 22-23 ก.ย. 2561 ตั้งเป้าสิ้นปีมียอดขาย 80% คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างในช่วงไตรมาส 3 ปี 2562 แล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ประมาณไตรมาส 2 ปี 2564

ชนินทร์ กล่าวว่า ราคาที่ดินในย่านสุขุมวิท 39 ยังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่ดินในซอยอยู่ที่กว่า 1 ล้านบาท/ตารางวา (ตร.ว.) และในซอยย่อยอยู่ที่ราว 8-9 แสนบาท/ตร.ว. ขณะที่ราคาที่ดินติดถนนสุขุมวิทจะอยู่ที่ 2 ล้านบาท/ตร.ว.

ด้านราคาคอนโดย่านสุขมวิท 39 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2557-2561) ปรับตัวสูงขึ้นมากจากราคาขายเฉลี่ย 1.6 แสนบาท/ตร.ม. เป็น 2.75 แสนบาท/ตร.ม.ในปัจจุบัน ดังนั้นแนวโน้มการพัฒนาโครงการคอนโดลักซ์ชัวรี่โลว์ไรส์ในซอยบนทำเลดังกล่าวน่าจะมีการเปิดตัวเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการด้านที่อยู่อาศัยทั้งคนไทยและต่างชาติ

อย่างไรก็ดี ด้วยย่านสุขุมวิท 39 มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่เข้าทำงานในประเทศไทยมีทั้งหมดประมาณ 1 แสนครอบครัว หรือราว 2.5 แสนคน ซึ่งความต้องการเช่ายังมีต่อเนื่อง โดยอัตราเช่าอยู่ในระดับสูงที่สุดของกรุงเทพฯ คืออยู่ที่ 1,000 บาท/ตร.ม./เดือน จึงกลายเป็นทำเลที่ทำกำไรได้ดีจากการปล่อยเช่า

สำหรับกลุ่มเป้าหมายจะเน้นกลุ่มซื้อเพื่อการลงทุน 70% และซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง 30% เพราะผลตอบแทนด้านการลงทุนคอนโดย่านสุขุมวิท หากคำนวณจากอัตราค่าเช่าปัจจุบันที่ 1,000 บาท/ตร.ม./เดือน จะมีอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 3-6 หมื่นบาท/เดือน อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยจากการให้เช่าจะค่อนข้างสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 5-7% ต่อปี หากเทียบกับทำเลในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในที่มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 3% ต่อปี ทำให้คอนโดในทำเลนี้เป็นที่น่าสนใจในด้านการลงทุนปล่อยเช่า

ขณะเดียวกัน หากพิจารณาในแง่ของการลงทุนทั้งจากการปล่อยเช่าและการถือครองระยะยาว ถือว่ามีศักยภาพในแง่การลงทุนสูงจากดีมานด์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ย้ายมาอยู่อาศัยและทำงาน คาดว่าจะกำไรจากส่วนต่างราคา 3-5% ในทุกๆ ปี

เมื่อมองกำลังซื้อตลาดคอนโดในย่านสุขุมวิท 39 ยังเป็นคนไทยถึง 76% อีก 24% เป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มลูกค้าจากเอเชีย ซึ่งจีนซื้อมากสุดกว่า 70% ที่เหลือเป็นฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น

"ระดับราคานี้เป็นกลุ่มเซ็กเมนต์บนที่ ไม่ใช่ซื้อเป็นบ้านหลังแรก ดังนั้นการเข้มงวดของสถาบันการเงินจึงไม่มีผล กระทบมากนัก และไม่ใช่กลุ่มซื้อเพื่อเก็งกำไรขายใบจอง ต่างกับโครงการขนาดใหญ่ยูนิตจำนวนมากราคา 2-5 ล้านบาท ที่ยังมีสัดส่วนถึง 40% ขณะที่เซ็กเมนต์บนมีไม่ถึง 5%" ชนินทร์ กล่าว