สุดหรู! สิงห์เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ย่านประดิษฐ์มนูธรรม ราคาเริ่มหลังละ245ล้าน

สิงห์ เอสเตท เปิดตัวบ้านแพงลิบ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ราคา 245-360 ล้าน/หลัง มูลค่าโครงการ 6,500 ล้าน

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท เปิดเผยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ อัลตร้าลักซ์ชัวรี่ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทพร้อมเปิดตัวโครงการ “สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส” ที่ถือเป็นที่ดิน 1 ใน 3 แปลง ที่ตระกูลภิรมย์ภักดีซื้อสะสมไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะก่อตั้งสิงห์ เอสเตท ขึ้นมา ที่เดิมตั้งใจจะพัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยวสไตล์ลักซ์ชัวรี่ ก่อนก่อตั้งสิงห์ เอสเตท ขึ้นมาแล้ว โดยได้ปรับแผนมาพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ ซึ่งบริษัทตั้งใจที่จะให้โครงการดังกล่าวเป็นมาสเตอร์พีซและเป็นโครงการแฟล็กชิป

นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานพัฒนาธุรกิจที่อยู่อาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่เติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา และเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปี 2559 ซึ่งความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสวนทางกับจำนวนซัพพลายในตลาดมีน้อย อีกทั้งส่วนมากโครงการในระดับราคานี้มักที่อยู่ชานเมือง ซึ่งทำเลนั้นอาจจะยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

ทั้งนี้ บริษัทจึงได้เปิดตัวโครงการบ้านหรูระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ อยู่ในบริเวณรอบใจกลางเมือง “โครงการ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส” เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดกว่า 45 ไร่ ติดถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งการคมนาคมสะดวกเพราะใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน บริเวณดังกล่าวจะเชื่อมต่อกับการพัฒนารถไฟฟ้า 3 สาย คือ สีชมพู สีน้ำตาล และสีเทา

สำหรับโครงการสันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส พัฒนาบนที่ดิน 45 ไร่ จำนวน 25 หลัง ราคาเริ่มต้น 245 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท บริษัทได้มอบหมายให้บริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เป็นตัวแทนจำหน่าย โดยเน้นเจาะกลุ่มนักธุรกิจที่มีทรัพย์สินรวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันโครงการมียอดขายแล้ว 3 หลัง มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะแยกเป็น 2 สัญญา คือ ที่ดินและค่าก่อสร้างบ้าน โดยคาดว่าภายในปีนี้จะสามารถโอนที่ดินในโครงการได้ 6 แปลง หรือคิดเป็นมูลค่า 700 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในปี 2562

น.ส.อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดบ้านระดับลักซ์ชัวรี่และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ในปีนี้ สิ่งที่เป็นที่ดึงดูดใจลูกค้าเป็นสิ่งแรกคือทำเล ซึ่งต้องเป็นทำเลที่ดีและมีฟังก์ชั่นต่างๆ ที่สามารถตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ได้มากที่สุด ซึ่งกลุ่มลูกค้าเหล่านี้จะต้องการสิ่งที่ดีที่สุด มีความแตกต่างและโดดเด่น ซึ่งปัจจุบันตลาดบ้านระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ถือเป็นตลาดที่มีซัพพลายน้อย