เคปฟานเกาะส่วนตัว ปั้น6ดาวหรูรับไฮเอนด์

เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ถือเป็น 1 ใน 5 จุดหมายปลายทางยอดนิยมของประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องการเดินทางมาสัมผัส ด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย และสิ่งอำนวยความสะดวก ระบบสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมที่สะดวก มีสนามบินที่รองรับการหลั่งไหลและเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว จึงถือเป็นเมืองท่องเที่ยวและแหล่งลงทุนทางธุรกิจที่สำคัญ

ภูมิภัทร นาวานุเคราะห์ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวบนเกาะสมุยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวบนเกาะสมุยไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่ 85% จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ 15% เป็นคนไทย เนื่องจากตลาดการท่องเที่ยวในสมุยมีค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายที่สูง ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจะมีกำลังซื้อและพฤติกรรมการซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 7,700 - 8,500 บาท/คน/วัน ทำให้สมุยกลายเป็นตลาดท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์และมีศักยภาพในการเติบโตที่สำคัญ

ดังนั้น จากปัจจัยการเติบโตดังกล่าวบริษัทจึงได้ใช้งบลงทุนรวมกว่า 550 ล้านบาท (รวมที่ดิน) พัฒนาโรงแรมแห่งที่ 23 ในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ มีพื้นที่รวมกว่า 15 ไร่ บนเกาะฟาน เกาะส่วนตัวใกล้เกาะสมุย ภายใต้ชื่อ เคปฟาน ซึ่งจะพัฒนาให้เป็นโรงแรมระดับ 6 ดาว ประกอบด้วยพูลวิลล่าแบบร่วมสมัย จำนวน 22 หลัง มีทั้งแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 300-600 ตารางเมตร มีราคาตั้งแต่ 2 หมื่นบาท/คืน ไปจนถึงหลักแสนบาท

สำหรับโรงแรมระดับ 6 ดาว บนเกาะสมุยมีเพียง 4-5 แห่ง เช่น โรงแรม ริช คาร์ตัน สมุย โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท สมุย เป็นต้น ซึ่งการลงทุนโรงแรมในรูปแบบของพูลวิลล่า ระดับ 6 ดาว ถือเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง และย่อมมีความคาดหวัง ดังนั้นบริษัทต้องการพัฒนาและวางทิศทางของโรงแรม เคปฟาน ให้เป็นเบอร์ 1 บนเกาะสมุย ซึ่งจะมีราคาของห้องพักสูงที่สุดบนเกาะ และดำเนินการภายใต้แนวคิด รีสอร์ทที่ตั้งอยู่บนเกาะส่วนตัวมากที่สุด โดยเคปฟานถือเป็นโรงแรม ลักซ์ชัวรี่แห่งที่ 3 ในเครือ ถัดจาก
เคปนินทรา หัวหิน และ เคปกูดูเกาะยาวน้อย และนับเป็นโรงแรมแห่งแรกในเครือที่มีราคาห้องพักสูงที่สุดแตะ 1.2 แสนบาท/คืน

ห้องพักที่ราคาแพงที่สุดถือเป็นห้องวิลล่าพิเศษ ที่ตั้งอยู่บนเกาะฟานน้อย เกาะขนาดเล็กใกล้กับเกาะฟานวิลล่าที่อยู่บนเกาะส่วนตัวเดียวกัน ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาสถานที่ฮันนีมูน

ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวที่เริ่มทราบข่าวการพัฒนาและการเปิดโรงแรมเคปฟาน ทำให้มียอดจองห้องพักล่วงหน้าเข้ามาบ้างแล้ว รวมถึงการจองปิดเกาะทั้ง 22 ห้องเพื่อจัดงานแต่งงาน ซึ่งถือเป็นจุดขายของโรงแรม โดยจะมีค่าใช้จ่ายรวมค่าอาหารเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท/วัน พร้อมบริการระดับมาตรฐานซึ่งสามารถรับรองงานเลี้ยงได้ถึง 50 ราย 

ทั้งนี้ บริษัทจะเปิดให้บริการเคปฟานเต็มรูปแบบในช่วงเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นช่วงเข้าฤดูการท่องเที่ยวของสมุย ทำให้คาดการณ์ในช่วงเวลาที่เหลือ 5 เดือนของปีนี้จะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 80% ส่วนในปี 2562 ตั้งเป้ามีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 85% โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย 90% ยังเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากเยอรมนี ออสเตรเลีย อังกฤษ เกาหลี จีน และ 10% เป็นนักท่องเที่ยวไทย

“สัดส่วนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางท่องเที่ยวสมุยยังมีจำนวนน้อย เนื่องจากส่วนใหญ่เห็นความสมุยอาจมีราคาที่แพง กลับกันนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความนิยมเนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอยู่โดยรอบและสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ต่อเนื่อง เช่น เกาะเต่า หมู่เกาะอ่างทอง เกาะพงัน ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางมาอีกจำนวนมาก ดังนั้นธุรกิจรีสอร์ทเคปฟาน จะช่วยรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น” ภูมิภัทร กล่าว

ขณะเดียวกันจากการพัฒนาเคปฟานในปีนี้ จะช่วยให้บริษัทมีจำนวนห้องพักในเครือเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3,741 ห้อง อยู่อันดับ 3 ของเชนโรงแรมไทย โดยตลอดทั้้งปีนี้คาดการณ์ว่าอัตราการเข้าพักโรงแรมในเครือเฉลี่ยจะอยู่ที่ 80% ซึ่งส่วนใหญ่กจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาใช้บริการยังเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กร นักธุรกิจ เพราะเครือโรงแรมได้กระจายอยู่ตามภาคตะวันออกกว่า 11 แห่ง โดยยอมรับว่าแม้การแข่งขันในธุรกิจโรงแรมของภาคตะวันออกจะสูง แต่บริษัทยังสามารถครองสัดส่วนอัตราการเข้าพักได้ต่อเนื่องและสามารถปรับเพิ่มราคาห้องพักได้ 4-5% 

ภูมิภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนธุรกิจใน 2-3 ปีจากนี้ เตรียมใช้งบมากกว่า 500 ล้านบาท ลงทุนพัฒนาโรงแรมพูลวิลล่าจำนวน 35 ห้อง บริเวณนาเกลือ พัทยา เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์เพิ่มขึ้น

เช่นเดียวกับในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ระหว่างพิจารณาแผน ในการขยายเครือโรงแรมแคนทารีเพิ่มขึ้นในจังหวัดที่เหมาะสม หลังมีแนวโน้มการขยายตัวของประชากร และสัญญาณการเติบโตจากรถไฟความเร็วสูงและโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ 

นอกจากนั้นอยู่ระหว่างพิจารณาการพัฒนาพิื้นที่อีกกว่า 10 ไร่ บริเวณหาดเชิงมน ตรงข้ามกับเกาะฟาน เพื่อพัฒนาโรงแรมจำนวน 150 ห้องในอนาคต