posttoday

รีจัสมุ่งครองผู้นำ พื้นที่ทำงานพร้อมใช้

20 มิถุนายน 2561

ธุรกิจบริการพื้นที่ทำงานพร้อมใช้ ในรูปแบบสำนักงาน ห้องประชุมสำหรับองค์กรต่างๆ และพื้นที่โคเวิร์กกิ้ง หรือที่นั่งทำงานร่วมให้เช่า มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

โดย...ภูวดล โกมลรัตนเสถียร

ธุรกิจบริการพื้นที่ทำงานพร้อมใช้ ในรูปแบบสำนักงาน ห้องประชุมสำหรับองค์กรต่างๆ และพื้นที่โคเวิร์กกิ้ง หรือที่นั่งทำงานร่วมให้เช่า มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจ ตั้งแต่ระดับกลุ่มผู้ประกอบการสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่

โนเอล โค้ก ผู้อำนวยการใหญ่ รีจัส ประจำประเทศไทย ไต้หวัน และเกาหลี เปิดเผยว่า ธุรกิจพื้นที่ทำงานพร้อมใช้ในประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตสูงที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ปัจจัยสำคัญมาจากภาครัฐได้สนับสนุนและอำนวยความสะดวกทางธุรกิจให้กับนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัว ส่งผลดีต่อเนื่องถึงอุตสาหกรรมไมซ์ที่ช่วยส่งเสริมด้านการค้า การแลกเปลี่ยน การลงทุนและการจับคู่ธุรกิจ

ประกอบกับพฤติกรรมของคน ทำงานทั่วโลก มีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งในส่วนของพนักงานและองค์กร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเทคโนโลยีดิจิทัล ที่เข้ามาสนับสนุนการทำงานจากระยะไกล สามารถทำงานจากสถานที่ต่างๆ ช่วยให้พนักงานสร้างความสมดุล และลดระยะเวลาในการเดินทางระหว่างสถานที่ทำงานกับบ้าน

สอดคล้องกับผลการสำรวจของ รีจัส จากกลุ่มนักธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พบว่า 58% ของพนักงานจะต้องทำงานจากนอกสถานที่อย่างน้อย 2.5 ครั้ง/สัปดาห์ และ 64% ขององค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก เช่น ไมโครซอฟท์ แคนนอน พีดับบลิวซี ส่งเสริมการทำงานแบบยืดหยุ่น เนื่องจากจะช่วยสนับสนุนองค์กรและธุรกิจให้เติบโต อีกทั้งจะช่วยเพิ่มกำไรให้กับบริษัทในการประหยัดต้นทุนการจัดการด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น การซ่อมบำรุง การเช่าสถานที่ระยะยาว การจัดซื้อ และเพื่อเตรียมพร้อมรับมือการเพิ่มหรือลดพนักงาน

จากปัจจัยดังกล่าว บริษัทจึงวางแผนขยายสาขาใหม่ในไทยเพิ่ม ล่าสุดเปิดสาขาที่ 19 ณ อาคารภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค พื้นที่ 1,450 ตร.ม. ซึ่งอยู่ในศูนย์กลางอุตสาหกรรมและการผลิต และเป็นแหล่งการจัดประชุมและนิทรรศการ ดังนั้นเป็นโอกาสที่จะช่วย ส่งเสริมการบริการให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศสามารถเข้าถึงสำนักงาน ที่ให้ความยืดหยุ่นในการทำงาน และการจัดประชุมเจรจาตกลงธุรกิจ

ขณะเดียวกัน รีจัสมีแผนสนับสนุนธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่ม ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ด้วยการ บริการสำนักงานเสมือน ประกอบด้วย บริการตอบรับทางโทรศัพท์ บริการจัดการจดหมายด้วยที่อยู่ทางธุรกิจ ซึ่งจะขยายสาขาในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และภูเก็ต โดยจะเปิดให้บริการแห่งใหม่ช่วงปลายเดือนนี้ ที่ ไอคอน ปาร์ค เชียงใหม่ และจะเปิดให้บริการแห่งที่ 21 ณ โครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์ บริเวณแยกอโศก-เพชรบุรี ในเดือน ก.ย.ปีนี้

สำหรับแผนระยะยาว จะหาความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ที่เป็นเจ้าของที่ดิน สรรหาทำเลที่ตั้งเพื่อขยายลงทุนสาขา ให้บริการในไทยเพิ่มขึ้น 5 เท่าจากปัจจุบัน หรือเป็น 100 สาขา ภายในระยะเวลา 5 ปี ส่วนหนึ่งเพราะมองเห็นศักยภาพและตัวเลขการเติบโตจากความต้องการของตลาด แม้ว่าปัจจุบันจะมีคู่แข่งและผู้เล่นรายใหม่เกิดขึ้นต่อเนื่อง แต่บริษัทมั่นใจยังคงครองผู้นำธุรกิจบริการพื้นที่ทำงานพร้อมใช้ และโคเวิร์กกิ้งอันดับ 1 ในไทย

ขณะที่สัดส่วนลูกค้าที่ใช้บริการ ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทไทยอยู่ที่ 60% และบริษัทต่างชาติ 40% เช่น เกาหลี จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี ในทุกภาคอุตสาหกรรมและบริการ มีอัตราการเข้าใช้พื้นที่เฉลี่ย 85%