'สโลว์ไลฟ์' ไลฟ์สไตล์ใหม่ในทำเลเก่า (1)

โดย...ต เต่า @ บ้านสุขุมวิท

ครั้งนี้ผมขอพานั่งรถไฟไปแอ่วเมืองเหนือ เพื่อสัมผัสความเรียบง่ายให้ได้บรรยากาศฟินๆ ในการเยี่ยมชมทำเลเก่าแห่งหนึ่งที่มีอายุยาวนานนับพันปีและเพื่อให้เข้าใจวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ที่วัยรุ่นตอนปลายอยากทดลองเป็นสายชิลล์อย่างผมไม่ควรพลาด ใช่แล้วครับผมกำลังพูดถึง จ.ลำพูน จังหวัดเล็กๆ ที่มีพื้นที่ทางภูมิศาสตร์เล็กที่สุดของภาคเหนือ แต่มีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และทรงคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมของอาณาจักรล้านนา

เดิมลำพูนเป็นเมืองเก่าที่เงียบสงบและเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวในการมาสักการะกราบไหว้และเยี่ยมชมวัดวาอาราม ทั้งวัดพระธาตุหริภุญชัย วัดจามเทวีที่ศักดิ์สิทธิ์และงดงาม รวมทั้งเป็นแหล่งเที่ยว กินแบบที่ใครไปแล้วต้องเช็กอินเหมือนเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ เช่นกัน 

วันนี้เมืองเก่าแห่งนี้ยังคงเสน่ห์และมนตร์ขลังของเรื่องราวและประวัติศาสตร์ในอดีตอยู่เช่นเคย สิ่งที่ถูกแต่งเติมคือรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนยุคใหม่ที่สามารถสร้างคุณค่าทางจิตใจและความรู้สึก จนสามารถดึงดูดผู้คนและนักท่องเที่ยวที่เรียกหาความเนิบช้าที่รู้จักกันว่ากระแสการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ หนึ่งในเทรนด์ใหม่ที่กล่าวขวัญอยู่ในโลกโซเชียลและผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากสโลว์ไลฟ์ของคนรุ่นนี้ ที่แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร มาติดตามกันครับ

ความที่ผมและคนรุ่นเจนเอ็กซ์ไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญกับคำว่าไลฟ์สไตล์ที่อินเทรนด์ เก๋ไก๋ คูล ชิกหรืออะไรๆ อื่นๆ อีกมากมายเท่ากับคนรุ่นเจนวายและเจนซีในยุคนี้ นั่นเลยอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่มีการบัญญัติคำศัพท์หรือนิยามวิถีชีวิตของตนเองออกมาอย่างชัดเจน มาถึงวันนี้คำว่า สโลว์ไลฟ์ ถ้าให้ใครๆ แปลตรงตัวตามความหมายในภาษาอังกฤษ เดาว่าน่าจะเป็นการใช้ชีวิตแบบช้าๆ หรือแค่ใช้ชีวิตให้เรื่อยเปื่อยมากขึ้น แต่คำว่า ช้า นั้นน่าสงสัยว่าช้าแค่ไหนและช้าอย่างไร แล้วต้องทำอะไร ทำไมถึงเป็นที่นิยมจนเกิดเป็นกระแสใหม่ของไลฟ์สไตล์ได้

ผมเลยลองศึกษาหาข้อมูลและทำความเข้าใจกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนรุ่นนี้มาระยะหนึ่งจนรู้ว่าพวกเขาเหล่านี้ชอบหาทางเลือกให้แก่ชีวิต เป็นยุคที่ทุกสตอรี่ในชีวิตต้องมี “ทางเลือก” ไม่ว่าจะเป็นการกินอยู่ การเรียน การทำงานและการใช้ชีวิต ฯลฯ ประมาณว่าพวกเขาจะไม่เลือกเดินในเส้นทางที่มีแต่ความเร่งรีบและการทำงานหนัก เพื่อความสำเร็จจนไม่มีเวลาพักผ่อนเหมือนรุ่นพ่อแม่ เพราะการใช้ชีวิตแบบนั้นไม่ตอบโจทย์และไม่ใช่หนทางชีวิตของเขาครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต้องทำอะไรเชื่องช้าน่าเบื่อ เพียงแต่ไม่ต้องวิ่งไปตามโลกวัตถุให้เหนื่อยตลอดเวลา

ผมคิดไปมาจนได้คำนิยามว่า กระแสการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ของคนยุคใหม่ คือ การใช้ชีวิตด้วยสปีดที่ช้าลงแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างมีสาระ เพื่อให้มีสติและซึมซาบความหมายของชีวิตได้มากขึ้น พูดง่ายๆ ว่าเป็นการรู้จักหาสมดุลให้ชีวิตในโลกปัจจุบันอันรีบเร่งและเต็มไปด้วยการแข่งขันได้อย่างเหมาะสม เมื่อทำงานก็ทำกันอย่างเต็มที่เพื่อเงินและความก้าวหน้า แต่เมื่อถึงวันหยุดพักผ่อน เราจะเห็นได้ว่าพวกเขาต่างมุ่งหน้าไปใช้ชีวิตตามวิถีของตนเอง ผมรู้สึกว่านี่คงเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสถานที่ท่องเที่ยว หรือธุรกิจรูปแบบใหม่ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากเมื่อก่อนมากมาย ชนิดที่เรียกว่าคนรุ่นผมนึกภาพไม่ออกว่าธุรกิจประเภทนี้เกิดหรือเติบโตได้อย่างไรในทำเลหรือพื้นที่ที่เราอยู่มาครึ่งค่อนชีวิต

วันนี้เราเดินมาถึงจุดที่ไลฟ์สไตล์กลายเป็นเรื่องสำคัญ อย่างที่ผมบอกครับว่าธุรกิจรูปแบบใหม่ในยุคนี้ ถ้าสร้างเรื่องราวหรือสอดคล้องหรือตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้คนรุ่นใหม่ได้จะเป็นแรงส่งต่อคุณค่าด้านจิตใจและสามารถดึงดูดผู้คนที่มีความนิยมชมชอบในสิ่งเดียวกัน แน่นอนครับธุรกิจย่อมเกิดและเติบโตได้ไม่ยาก

ครั้งหน้าจะมาเล่าให้ฟังต่อว่าเมืองเก่า ทำเลเก่าอย่างลำพูนเกี่ยวพันอะไรกับกระแสการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ยิ่งกว่านั้นยังเกี่ยวพันกับคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการอสังหาฯ เก่า ทำเลเก่าในโลกของผม ติดตามและหาคำตอบไปพร้อมกัน