อสังหารอผังเมืองอีอีซีชัดผุดโครงการ

เอกชนระบุกฎหมายอีอีซีหนุนการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ ขณะที่ภาคอสังหาฯ รอผังเมืองใหม่ชัด ชี้ราคาที่ดินพุ่งส่งผลต่อต้นทุนบ้าน

นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า จากที่พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 หรือกฎหมาย อีอีซีมีผลบังคับใช้ ได้สร้างความชัดเจนและเป็นการส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งเป็นนิวเทคโนโลยี ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศต่อไป

สำหรับกฎหมายดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ทั้งหมด แต่เป็นการอ้างอิงที่กฎหมายที่บังคับใช้ในปัจจุบันหลายฉบับ ซึ่งสิ่งที่แตกต่างคือ การเช่า เช่าช่วง ให้เช่า หรือให้เช่าช่วงที่ดิน หรืออสังหาฯ ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษสามารถเช่าได้ถึง 99 ปี อีกทั้งผู้ให้เช่าไม่ต้องเป็นเจ้าของ อสังหาฯ และจำนวนที่ดินเช่าเกินกว่า 100 ไร่ ไม่ต้องได้รับอนุมัติตามกฎกระทรวง ซึ่งจะเพิ่มความคล่องตัวช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเข้ามาในพื้นที่อีอีซีมากขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของภาคอสังหาฯ ยังคงต้องรอความชัดเจนเรื่องผังเมืองที่เป็นตัวกำหนดการใช้ประโยชน์ในที่ดินให้สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค ทั้งนี้ เห็นว่าจะต้องครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดให้เชื่อมโยงการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งแหล่งงานและที่อยู่อาศัยต้องใกล้กัน

ขณะที่ราคาที่ดินได้ปรับขึ้นแบบก้าวกระโดดล่วงหน้าไปแล้ว ซึ่งมีตั้งแต่ขึ้น 10% ไปจนถึงกว่า 100% ในบางพื้นที่ ทำให้ดีเวลอปเปอร์ต้องระวังการลงทุนไม่เช่นนั้นจะติดกับดักราคา ทั้งนี้ เห็นว่าการให้เช่า 99 ปี ที่มีความชัดเจนดีกว่าการขายที่ดิน ปัจจุบันหลายพื้นที่ซึ่งได้รับส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ให้ต่างชาติซื้อที่ดินได้แต่มีเงื่อนไข

ด้าน นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า กฎหมายอีอีซีมีความชัดเจนในแง่ของการลงทุนในอุตสาหกรรม แต่ต้นทุน อสังหาฯ ขึ้นไปแล้ว โดยเฉพาะราคาที่ดิน ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญต่อการพัฒนาโครงการและกว่าแรงงานจะเข้าในพื้นที่ก็ราว 1-2 ปีข้างหน้า ถึงเวลานั้นลูกค้าจะซื้อบ้านแพงขึ้นตามต้นทุน ซึ่งกำลังซื้ออาจโตไม่ทัน