posttoday

เลือกหลอดไฟ สารพันสารพัดใช้งานในคอนโด

17 มีนาคม 2561

ช่วงนี้อะไรที่ประหยัดได้ต้องประหยัด หลอดไฟประหยัดพลังงานช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าไม่น้อย

โดย วันพรรษา อภิรัฐนานนท์

ช่วงนี้อะไรที่ประหยัดได้ต้องประหยัด หลอดไฟประหยัดพลังงานช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าไม่น้อย นำมาปรับใช้ไม่ผิดกติกากับการตกแต่งห้องชุดในคอนโดมิเนียม

 ว่าแล้วก็ชวนมาจัด (หลอด) ไฟดีกว่า ได้ทั้งห้องใหม่ ได้ทั้งมู้ดใหม่ และได้ประหยัดค่าไฟฟ้าในบ้าน

1.ห้องนอน

เลือกหลอดไฟแบบคอมแพกต์ฟลูออเรสเซนต์ ชนิดที่ให้แสงออกเหลืองอ่อน (Warm White) ช่วยทำให้ห้องอบอุ่น โดยปกติห้องนอนจะมีจุดให้แสงสว่างหลักคือ โคมไฟหัวเตียงฝั่งซ้ายขวา เพื่อใช้ทำกิจกรรมเล็กน้อยก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือ สำหรับห้องนอนที่มีทีวีอยู่ปลายเตียงควรติดตั้งดาวน์ไลต์ ขนาด 11 วัตต์ บริเวณปลายเตียงอีก 1 ดวง เพื่อช่วยตัดแสงจากหน้าจอโทรทัศน์

2.ห้องแต่งตัว

ต้องการแสงสว่างที่เป็นธรรมชาติ เพราะมีผลต่อการเลือกสีเสื้อผ้าหรือการแต่งหน้า แนะให้ใช้หลอดคอมแพกต์ ฟลูออเรสเซนต์ mini lynx หรือ mini twister ขนาด 7 วัตต์ ซึ่งให้แสงสว่างเทียบเท่ากับหลอดฮาโลเจน 40-50 วัตต์ มีค่าความถูกต้องสีของแสงมากกว่า 80% ขึ้นไป

สำหรับโต๊ะเครื่องแป้ง ควรติดตั้งหลอดไฟคอมแพกต์ฟลูออเรสเซนต์ แบบ T5 ไว้ด้านบน และเสริมด้วยหลอดฮาโลเจนไว้ด้านข้างทั้งสองด้าน กล่าวคือ ถ้าเป็นการแต่งหน้ามาทำงานในเวลากลางวันการใช้แสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์เป็นหลัก จะช่วยให้สีสันบนใบหน้าไม่จัดจ้านเกินไปเมื่อต้องมาเจอแสงไฟในออฟฟิศ ส่วนใหญ่ซึ่งเป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์เช่นเดียวกัน

ส่วนงานกลางคืนขอให้ใช้ไฟจากหลอดฮาโลเจนเป็นหลัก เนื่องจากงานกลางคืนส่วนใหญ่จะประดับประดาด้วยหลอดฮาโลเจน การแต่งหน้าโดยใช้แสงจากหลอดฮาโลเจนเหมือนกัน จึงช่วยให้ใบหน้ามีสีสัน ไม่ซีดหรือจางเกินไปเมื่อเจอกับแสงไฟในงาน

3.ห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่น

เลือกหลอดไฟ สารพันสารพัดใช้งานในคอนโด

 

ห้องนั่งเล่นเน้นความสบายตาสบายใจ ส่วนห้องรับแขก แสงควรอบอุ่นเลือกแสงขาวนวลถึงเหลือง ติดหลอดไฟคอมแพกต์ฟลูออเรสเซนต์ แบบ T5 ดีที่สุด ควรให้หลอดไฟฉายแสงส่องกระทบผนัง ทำให้ห้องดูกว้าง หรือจะเพิ่มบรรยากาศด้วยการติดตั้งโคมไฟอินไดเรกต์ไลต์ (In Direct Light) หรือไฟส่องกระทบฝ้า เช่น โคมไฟ Cielo 300 ให้แสงสว่างกระจายขึ้นด้านบน

4.ห้องทำงาน

ควรเป็นแสงขาวนวล สร้างบรรยากาศการทำงาน ที่เหนือโต๊ะทำงานควรติดตั้งหลอดไฟดาวน์ไลต์ ที่ให้แสงสว่างกระจายไปทั่วห้องได้ รวมทั้งบนโต๊ะทำงานควรมีโคมไฟตั้งโต๊ะ เพื่อให้แสงเพิ่ม และกลบเงาจากดาวน์ไลต์

5.ห้องครัว

ห้องครัวไทยแบบแกง-ต้ม-ผัด-ทอด ควรเลือกใช้โคมไฟดาวน์ไลต์แบบมีกระจกปิดเพื่อป้องกันฝุ่น ควัน และความชื้น เช่น โคมไฟ Wall lynx หรือหลอดคอมแพกต์ฟลูออเรสเซนต์ แบบ T5 ที่มีค่า IT 44 ขึ้นไป (วิธีเลือกซื้อหลอดไฟชนิดนี้ให้สังเกตตัวเลขทั้ง 4 ตัว ที่ติดมากับหลอดโดย 4 ตัวแรกหมายถึงค่าป้องกันฝุ่นและ 4 ตัว หลังหมายถึงค่าป้องกันความชื้นและน้ำ)

ห้องครัวหรือห้องประกอบอาหาร นิยมใช้แสงสีขาวนวลถึงเหลือง ติดหลอดไฟเพื่อให้แสงสว่างเป็นจุดๆ ตามที่ต้องการใช้งาน เช่น ติด T5 บนฝ้าเหนือบริเวณเตาแก๊สเพื่อให้แสงสว่างเวลาประกอบอาหาร อย่าลืมเลือกหลอดแบบมีกระจกครอบ

เลือกหลอดไฟ สารพันสารพัดใช้งานในคอนโด

 

6.ห้องรับประทานอาหาร

ควรมีโคมไฟสีออกเหลืองนวล ชนิด Fresco 300 Fresco 400 หรือ T5 แขวนอยู่ตรงกลางโต๊ะอาหาร ซึ่งช่วยเพิ่มความอยากอาหาร และช่วยเพิ่มแสงสีให้อาหารดูน่ารับประทานมากขึ้น โดยควรเป็นหลอดกลมเพื่อกระจายแสงทั่วถึง อาจเพิ่มโคมไฟลอยที่ผนัง เพื่อเพิ่มบรรยากาศความอบอุ่นและทำให้ห้องมีมิติ

7.บริเวณนอกห้อง

ตามไฟไว้เป็นระยะรอบนอกของห้อง โดยระยะห่างของไฟที่ได้ผลคือ 3-4 เมตร ซึ่งให้แสงทั่วถึงสว่างเพียงพอ ควรเลือกโคมไฟชนิดหลอดแบบคอมแพกต์ฟลูออเรสเซนต์ 3-5 วัตต์ ต้องเลือกชนิดที่มีกระจกปิด เช่น หลอดไฟแอลอีดี หลอด Micro lynx ซึ่งมีค่า
IT ป้องกันฝุ่นและความชื้นตั้งแต่ 54, 55 และ 65 ขึ้นไป มีซีลยางป้องกันน้ำและแมลง หลอดไฟประเภทนี้อายุการใช้งานนานถึง 5 หมื่น-1 แสนชั่วโมง