posttoday

ส่องทำเลบ้านหรู ชี้ดีมานด์โตต่อเนื่อง

07 มีนาคม 2561

บ้านระดับลักซ์ชัวรี่ใจกลางเมือง ยังคง ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง

โดย...อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

บ้านระดับลักซ์ชัวรี่ใจกลางเมือง ยังคง ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง ไม่ว่าเศรษฐกิจประเทศจะอยู่ในสภาวการณ์เช่นไร ตลาดกลุ่มนี้ก็มีการเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการหันมาพัฒนาโครงการประเภทนี้กันมากขึ้น แม้จะมีข้อจำกัดด้านที่ดินก็ตาม

นลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2558 ถึงไตรมาสแรกปี 2561 ตลาดบ้าน ระดับลักซ์ชัวรี่ในกรุงเทพฯ ถือว่ามาแรงมีอุปทานรวม 42 โครงการ จำนวน 1,554 ยูนิต สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการบ้านระดับลักซ์ชัวรี่อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ พบว่าโครงการบ้านระดับ ลักซ์ชัวรี่กระจายตัวตามแหล่งความเจริญของเมืองที่มีลักษณะเด่นต่างกัน ส่งผลถึงรูปแบบบ้านที่แตกต่างกันไป โดยทำเลที่ได้รับความนิยม เช่น 1.สุขุมวิท (พร้อมพงษ์-เอกมัย) 2.ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ 3.พระราม 9-ศรีนครินทร์-พัฒนาการ 4.ราชพฤกษ์ 5.สาทร-พระราม 3 6.บางนา และ 7.พระราม 2 เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อทำเลยังคงเป็นปัจจัยหลักของการเลือกพัฒนาบ้านระดับลักซ์ชัวรี่ รวมทั้งที่ดินมีอยู่อย่างจำกัด และราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น ทุกปี ทำให้ผู้ประกอบการให้ความสนใจในการพัฒนาโครงการในที่ดินที่มีขนาดเล็กลง ในขณะที่มีพื้นที่ใช้สอยซึ่งตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มลักซ์ชัวรี่ได้เป็นอย่างดี โดยมีที่ดินต่อยูนิตขนาดระหว่าง 29-129 ตารางวามากขึ้นทำให้มีโครงการบ้านแนวสูงในตลาดมากขึ้น

สำหรับบ้านแนวสูงนั้น หมายถึงบ้านที่ความสูงมากกว่า 15 เมตร หรือ 4 ชั้นขึ้นไป ทั้งนี้จากปี 2558 ถึงไตรมาสแรกปี 2561 มีอุปทานอยู่ราว 12 โครงการ จำนวน 94 ยูนิต โดยในปี 2558-2559 บ้านประเภทนี้อยู่ในทำเลสุขุมวิท (พร้อมพงษ์-เอกมัย)

ส่วนในปี 2560 ถึงไตรมาสแรกปี 2561 มีการกระจายตัวออกจากทำเลสุขุมวิทไปยังโซนลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ บางนาและพระราม 9-พัฒนาการ-ศรีนครินทร์มากขึ้น อย่างไรก็ดีด้วยราคาที่ดินยังคงเป็นข้อจำกัดและปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนารูปแบบบ้าน ทั้งนี้ในไตรมาสแรกปี 2561 มีโครงการใหม่เกิดขึ้น 4 โครงการ โดยทำเลยังคงเป็นสุขุมวิท สาทร ใจกลางเมือง เป็นหลัก

นลินรัตน์ กล่าวว่า ด้วยราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนใจกลางเมืองและบริเวณใกล้ใจกลางเมือง ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านบนที่ดินแปลงใหญ่ทำได้ยาก ดังนั้นบ้านระดับลักซ์ชัวรี่จึงมีแนวโน้มอยู่บนที่ดินที่มีขนาดเล็กลงเป็นแนวบ้านทรงสูงขึ้น และยังมีฟังก์ชั่นที่ครบครันแทนที่

ขณะที่ผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการในเซ็กเมนต์นี้ก็ได้มีการพัฒนารูปแบบและฟังก์ชั่นให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคไปพร้อมๆ กับการสร้างมูลค่าเพิ่มทำให้โครงการนั้นมีความน่าใจมากขึ้น อาทิ ห้องเก็บไวน์ ห้องเก็บรถหรู และมีขนาดพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยที่ต้องการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ภายในบ้านพักอาศัยส่วนตัว

นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบบ้านที่สามารถสร้างศักยภาพสูงสุด เพื่อที่จะได้ไม่เข้าข่ายกฎหมายก่อสร้างอาคารสูง ซึ่งจะทำให้มีข้อจำกัดด้านการออกแบบมากขึ้น เห็นได้จากข้อมูลในตลาดปัจจุบันที่มีที่ดินขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 29 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 450 ตารางเมตรขึ้นไป สูง 4-7 ชั้น เกิดเป็นลักษณะรูปแบบของบ้านแนวสูง จำนวนยูนิตไม่มาก นับว่าเป็นการพัฒนาบ้านรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้น ในปัจจุบัน แตกต่างจากรูปแบบบ้านในอดีตที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี บ้านระดับลักซ์ชัวรี่แบ่งได้ 2 แบบ คือ บ้านระดับลักซ์ชัวรี่ แบบเน้นการพัฒนาในแนวราบ และบ้านระดับลักซ์ชัวรี่แบบเน้นการพัฒนาในแนวสูง ซึ่งแบบบ้านดังกล่าวมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันอย่างโดดเด่นด้วยรูปทรงภายนอก ขนาดที่ดิน และทำเลที่ตั้งโครงการ แต่หากเมื่อเปรียบเทียบแล้วขนาดพื้นที่ใช้สอยยังคงมีขนาดใกล้เคียงกัน

"สังเกตได้ว่าโครงการบ้านแนวสูงที่เกิดขึ้นบนที่ดินทำเลใจกลางเมือง เป็นผลมาจากดีเวลอปเปอร์พยายามพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่า ต่อราคาทุนที่ดินที่มีราคาสูงลิบและเพื่อสร้างศักยภาพสูงสุด ทำให้เกิดบ้าน บนที่ดินขนาดเล็ก แต่ในขณะเดียวกัน ยังมีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอต่อความต้องการตามไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย ของกลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี่เช่นกัน"  นลินรัตน์ กล่าว