'เพอร์เฟค'รุกลูกค้ากลาง-บนวาดเป้าแตะ2.4หมื่นล้านปีนี้

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคเดินหน้าลุยเจาะลูกค้าตลาดกลางบน หลังพบยังไปได้ คาดสิ้นปีรายได้ทะลุ 2.4 หมื่นล้านตามเป้า

นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) เปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบระดับกลางขึ้นบน และตลาดคอนโดมิเนียมระดับบนยังสามารถเติบโตต่อไปได้ เนื่องจากผู้บริโภคดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ จึงทำให้มีปัญหาในด้านของการขอ สินเชื่อที่อยู่อาศัยน้อยเมื่อเทียบกับกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางลงล่าง ภายหลังจากช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาสถาบันการเงินค่อนข้างมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ

ทั้งนี้ จากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับแผนการดำเนินธุรกิจ ด้วยการหันมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในระดับกลางขึ้นบนมากขึ้น ซึ่งในส่วนของบริษัทเองในปีนี้ก็จะเน้นทำขยายธุรกิจเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางบนเป็นหลัก เห็นได้จากการเปิดตัวที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ๆ ที่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวเป็นหลัก

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ ในส่วนของการขยายธุรกิจในประเทศ บริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการเปิดโครงการใหม่จำนวน 25 โครงการ มูลค่ารวม 35,823 ล้านบาท แบ่งเป็น แนวราบ 21 โครงการ รวมมูลค่า 25,543 ล้านบาท แนวสูงหรือคอนโดมิเนียม 4 โครงการ รวมมูลค่า 10,280 ล้านบาท

ขณะที่ธุรกิจโรงแรมมีแผนที่จะเปิดให้ดำเนินการโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ รวมไปถึงการเริ่มรับรู้รายได้จากโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ที่จะเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งในส่วนของธุรกิจโรงแรมภายในประเทศคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มเป็น 2,100 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 92% จากปี 2560

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่ จะขายที่ดินบางส่วน เพื่อให้สิ้นปีมี รายได้จากการดำเนินงานในธุรกิจ ดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่วน ความคืบหน้าของการจัดการที่ดินบนทำเลย่านรัชดา 2 แปลง จำนวน 20 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินภายใต้การดูแลของบริษัท วีรีเทล ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ที่สนใจซื้อหรือร่วมทุนในที่ดินแปลง ดังกล่าว โดยคาดว่าภายในไตรมาส 2 นี้น่าจะได้ข้อสรุป

นายธีรธัชช์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของธุรกิจต่างประเทศนั้น บริษัทมีแผนจะจับมือร่วมกับบริษัทด้านสกีระดับโลก เพื่อทำการต่อยอดธุรกิจทั้งในส่วนโรงแรมและที่พักอาศัย ด้วยการเตรียมแผนพัฒนาโครงการต่อเนื่องบนที่ดินเปล่า Freehold จำนวน 300 ไร่ เพิ่มเติมจากการลงทุนโครงการ "ยู คิโรโระ" คอนโดมิเนียมมูลค่า 4,000 ล้านบาท ที่เพิ่งเปิดตัวไป รวมไปถึงการพัฒนาโครงการที่อาศัยในรูปแบบวิลล่ามูลค่า 4,500 ล้านบาท ร่วมกับบริษัทชั้นนำในธุรกิจที่อยู่อาศัยของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

อย่างไรก็ดี หลังจากบริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปี 2561 นี้จะมี รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 24,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้ประมาณ 16,146 ล้านบาท