posttoday

เนาวรัตน์ฯบุกรับเหมา มั่นใจก่อสร้างรัฐออกเพียบ

16 กุมภาพันธ์ 2561

เนาวรัตน์ฯ มั่นใจงานก่อสร้างภาครัฐออกเพียบมากกว่าเอกชน ดันรายได้ปีนี้โตแน่ 10-15% จากปีก่อน 8,000 ล้าน

เนาวรัตน์ฯ มั่นใจงานก่อสร้างภาครัฐออกเพียบมากกว่าเอกชน ดันรายได้ปีนี้โตแน่ 10-15% จากปีก่อน 8,000 ล้าน

นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการ ผู้จัดการอาวุโส บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ เปิดเผยว่า ภาพรวมงานรับเหมาก่อสร้างปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จากงานก่อสร้างเริ่มออกมามากขึ้น โดยเฉพาะงานระบบขนส่งมวลชนสาธารณูปโภค ซึ่งบริษัทต้องการเป็นผู้รับเหมาในการรับงานหลักก่อน แต่หากงานใดมีความท้าทายก็จะหาผู้รับเหมามาร่วมงานด้วย ซึ่งบริษัทสามารถเข้าไปร่วมกันรับงานกับผู้รับเหมาทุกรายโดยจะไม่ผูกติดกับรายใดรายหนึ่ง

ปัจจุบันสัดส่วนการรับงานงานภาครัฐจะมีสัดส่วน 80-90% ถือว่าเป็นหลัก ขณะที่งานภาคเอกชนมีสัญญาณที่ดีขึ้นแต่งานยังมีไม่มาก อย่างปีที่ผ่านมางานทางด้านก่อสร้างทางทะเล (มารีน) ออกมามากและคู่แข่งยังมีน้อย ทั้งนี้ประเมินว่าโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) จะมีการพัฒนาท่าเรือ 2-3 แห่ง ยิ่งเป็นโอกาสที่บริษัทจะเข้าไปร่วมพัฒนาโครงการ

"ปัจจุบันเนาวรัตน์ฯ และบริษัท อิตาเลียน ไทย ดีเวล๊อปเมนต์ นั้นมีความชำนาญงานก่อสร้างทางทะเล ที่ผ่านมาเคยรับงานร่วมกันอยู่แล้ว แม้ว่าขณะนี้จะเกิดเหตุการณ์ในแง่ลบกับบริษัท บริษัท อิตาเลียนไทย มองว่าบริษัท อิตาเลียนไทยต้องมีการวางแผนเพื่อ ที่จะดันบุคลากรมารับตำแหน่งแทนได้" นายปสันน กล่าว

อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นค่าแรงงานนั้นยังไม่มีผลกระทบเนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีการจ่ายเงินมากกว่าค่าจ้างแรงงานอยู่แล้ว ซึ่งสัดส่วนของค่าแรงเมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนทั้งหมดนั้นถือว่าค่อนข้างน้อยแทบจะไม่มีผลกระทบ ซึ่งที่ผ่านมางานก่อสร้างของบริษัทไม่ได้มีการพึ่งพาแรงงานจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต้นทุนที่ปรับขึ้นจะมาจากวัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมันแต่ปัจจุบันยังไม่มีอะไรที่เป็นนัยสำคัญที่จะทำให้ต้นทุนน้ำมันปรับสูงขึ้น ราคาเหล็กอาจจะมีขยับได้บ้างที่ผันผวนแต่ก็ยังไม่น่ากังวล เนื่องจากจีนยังมีกำลังผลิตสูงแม้ว่าจะปิดโรงผลิตเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานลงไปบ้าง ขณะเดียวกันบริษัทยังเป็นผู้ผลิต แผ่นพรีคาสท์สำเร็จรูป

สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งเป้าแบ็กล็อกหรือยอดขายรอโอนไว้ 1 หมื่นล้านบาท จากปี 2560 มีจำนวน 5,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมางานออกมามากแต่การแข่งขันนั้นค่อนข้างสูงมีการแข่งขันตัดราคา ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการนำระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อควบคุมต้นให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น การลดต้นทุนจากการทำงานล่วงเวลาจากอดีตเคยสูงกว่า 40% แต่ปัจจุบันลดลงเหลือกว่า 20% ถือเป็นช่วงที่บริษัทต้องพยายามบริหารต้นทุนให้ดีที่สุด ซึ่งได้เริ่มดำเนินการในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

ขณะที่แผนพัฒนาโครงการอสังหา ริมทรัพย์ในนามบริษัท มานะพัฒนาการ ที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้เน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก เนื่องจากยังมีโครงการ ที่อยู่ระหว่างการขายคือ โครงการแอสเพน สุขุมวิท 105  เฟสเอขายไปได้ 85% ส่วนเฟสบีขายแล้ว 65% โครงการบ้านแนวราบ นั้นต้องการให้มีการโอนโครงการให้มากพอก่อนอาจจะกลับมาพัฒนาในปี 2562 ปีนี้จะเน้นระบายสะต๊อกสินค้าก่อนอย่าง ปี 2560 บริษัทรับรู้รายได้โครงการที่อยู่อาศัย500 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้ายอดโอนไว้ 1,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมของบริษัทปีที่ผ่านมามีจำนวน 8,000 ล้านบาท คาดปีนี้เติบโต 10-15%