posttoday

อสังหาเล็กหวังปีนี้โต "เบล็สแอสเสท"ลุยแตกไลน์ผุดคอนโด-บ้านแฝดหรู

13 กุมภาพันธ์ 2561

เบล็ส แอสเสท คาดปี 2561 อสังหาฯ โตถึง 10% ชี้โอกาสขยายธุรกิจของผู้ประกอบการรายเล็ก แนะพัฒนาโปรดักต์ตอบโจทย์

เบล็ส แอสเสท คาดปี 2561 อสังหาฯ โตถึง 10% ชี้โอกาสขยายธุรกิจของผู้ประกอบการรายเล็ก แนะพัฒนาโปรดักต์ตอบโจทย์

นายธารินทร์ บวรวนิชยกูร กรรมการ บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในปี 2561 เป็นโอกาสที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีโอกาสเติบโตได้ถึง 9-10% เนื่องจากเศรษฐกิจมีการขยายตัว โดยอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจรวม (จีดีพี) ปีนี้คาดโตได้ 4.5-5% จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น

สำหรับดีเวลอปเปอร์รายเล็กเชื่อว่ายังมีช่องว่างในการทำตลาด โดยเฉพาะตลาดเรียลดีมานด์ ซึ่งการพัฒนาโครงการต้องเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและทำเล ซึ่งข้อได้เปรียบของผู้ประกอบการรายเล็กคือการปรับกลยุทธ์ได้ง่ายกว่ารายใหญ่ ประกอบกับสถาบันการเงินได้มีการยืดหยุ่นในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยแนวโน้มตลาดอสังหาฯ เริ่มดีขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังปี 2560 เรื่อยมา ซึ่งดูได้จากยอดปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทลดลงเหลือเพียง 20% จากต้นปี 2560 ที่อยู่ราว 35%

นายธารินทร์ กล่าวว่า จากแนวโน้มดังกล่าว บริษัทวางแผนปี 2561 ด้วยการแตกแบรนด์และเพิ่มเซ็กเมนต์โปรดักต์ใหม่สำหรับการพัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านแฝดเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มรายได้ในระยะยาว โดยมีแผนเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเมลิโซ ปาร์ค ศรีนครินทร์-หนามแดง มูลค่าราว 310 ล้านบาท เป็นบ้านแฝดหรู 58 ยูนิต ขนาดที่ดิน 36 ตารางวา (ตร.ว.) พื้นที่ใช้สอย 132 ตารางเมตร (ตร.ม.) อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีศรีด่าน เปิดขาย 3-4 มี.ค.นี้ ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 30 ยูนิต

นอกจากนี้ เตรียมเปิด เบล็สเชอร์ จรัญสนิทวงศ์ 96/1 คอนโด 8 ชั้น มูลค่าโครงการ 483 ล้านบาท จำนวน 193 ยูนิต ห่างจากรถไฟฟ้ามหานครสายสีน้ำเงิน สถานีบางอ้อ 700 เมตร ราคาขายเริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 6 หมื่นบาทปลาย/ตร.ม. โดยจะเปิดขาย 24-25 ก.พ.นี้ ตั้งเป้าปิดการขาย 70 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30 ยูนิต รวมทั้งมีแผนพัฒนามิกซ์ยูส ซึ่งเป็นทาวน์โฮมราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท และบ้านแฝด ราคา 4 ล้านบาท รวม 318 ยูนิต บนพื้นที่โครงการ 29 ไร่ มูลค่าโครงการราว 800 ล้านบาท เปิดตัวไตรมาส 3 ปีนี้

ขณะที่บริษัทมีที่ดินอีก 4 ไร่ห่างจากสถานีบางซ่อน 300 เมตร ซึ่งมีแผนพัฒนาเป็นอาคารสูงขายระดับราคาราว 1 แสนบาท/ตร.ม. ทั้งนี้ได้วางงบซื้อที่ดินอีกราว 1,000 ล้านบาท คาดจะได้ที่ดินราว 3-5 แปลงเพื่อพัฒนาแนวราบเพิ่ม โดยบริษัทจะเน้นที่ดินที่มีศักยภาพทั้งโซนตะวันออก แนวรถไฟฟ้าหรือใกล้ทางด่วน

นายธารินทร์ กล่าวว่า บริษัทจะขยายขนาดโครงการให้ใหญ่ขึ้นจากเดิมจะอยู่ที่ 10-15 ไร่ เพิ่มเป็น 20-40 ไร่ เพื่อให้มีโปรดักต์ที่หลากหลายในโครงการให้สามารถครอบคลุมความต้องการของเรียลดีมานด์คนรุ่นใหม่ อีกทั้งในอนาคตมีแผนพัฒนาอาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีแผนเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในปี 2562 โดยตั้งเป้าการเติบโตปีละ 30-40%

ด้านผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้ายอดขายที่ 900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้อยู่ที่ 570-580 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนรายได้ 1-2 ปีที่ผ่านมา รายได้มาจากกลุ่มแนวราบ 70% คอนโด 30% และหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คาดรายได้จะปรับเป็นแนวราบ  60% คอนโด 40%