ศุภาลัยทุ่ม2.1หมื่นล้าน ผุด30โครงการเน้นแนวราบพรีเมียม

ศุภาลัย แตกไลน์รุกตลาดแนวราบพรีเมียม ชูโมเดลดีไซน์บ้าน 3 ชั้นทำเลใกล้เมืองเจาะลูกค้าไลฟ์สไตล์คนกรุง พร้อมจ่อเปิดอีก 2 โครงการ มี.ค.นี้

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย เปิดเผยว่า ในปี 2561 แนวโน้มตลาดอสังหาฯ แนวราบมีทิศทางการเติบโตดีต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยเน้นการแข่งขันเรื่องนวัตกรรมการรูปแบบดีไซน์ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของทุกคนในครอบครัวนอกเหนือจากทำเล

สำหรับปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการแนวราบ 30 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเขตกรุงเทพฯปริมณฑล 17 โครงการ คิดเป็น 32% และภูมิภาค 13 โครงการสัดส่วน 22%

"ที่ผ่านมาบริษัทมีการกระจายเซ็กเมนต์โปรดักต์ไปทุกทำเลเพื่อไม่ให้มีการแย่งตลาดกันเองและเพื่อให้ครอบคลุมในทุกเซ็กเมนต์บ้านแนวราบในปีนี้บริษัทมีแผนพัฒนาบ้านระดับพรีเมียมในทำเลใกล้เมืองมากขึ้น" นายไตรเตชะ กล่าว

ขณะเดียวกัน ล่าสุดได้เปิดตัว บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และบ้านแฝด 3 ชั้นภายใต้แบรนด์เอสเซ้นส์ นำร่องโครงการ ศุภาลัย เอสเซ้นส์ ลาดพร้าว บนพื้นที่ราว 26 ไร่ 190 แปลง มีแบบบ้าน 3 แบบ ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 181 ตารางเมตร (ตร.ม.ขึ้นไป) บนที่ดินเริ่มต้น 20 ตร.ม.ขึ้นไป มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท เจาะระดับ 4-10 ล้านบาท โดยเตรียมขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 24-25 ก.พ. 2561 คาดมียอดขายราว 300 ล้านบาท จากปัจจุบันมียอดขายไปแล้วกว่า 10 ยูนิต เชื่อมั่นว่าจะปิดการขายโครงการทั้งโครงการได้ภายใน 2 ปี

อย่างไรก็ดี โครงการนี้ถือเป็น โปรเจกต์แรกที่ใช้แบรนด์เอสเซ้นส์รุกตลาดในกรุงเทพฯกับแบบบ้าน 3 ชั้น 3 แบบ 3 สไตล์ เนื่องจากราคาที่ดินในเมืองมีการปรับขึ้นต่อเนื่องหายากในบางทำเล อย่างเช่น โซนลาดพร้าวราคาที่ดินอยู่ที่ 5 หมื่น/ตารางวา (ตร.ว.) ขณะที่ซัพพลายแนวราบโซนนี้มีไม่มากถ้าเป็นทาวน์โฮมมีเพียง 3 โครงการ ราคา 4.9-5 ล้านบาท ซึ่ง บ้านแฝดจะเป็นไฮไลต์ของโซนนี้

ขณะที่บ้านเดี่ยวต้องขยับออกไปในทำเลรามอินทรา ร่มเกล้า ราคาขายราว 7-10 ล้านบาทขึ้นไป ดังนั้นแบบบ้าน 3 ชั้นจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ของทุกครอบครัว โดยบริษัทมีแผนจะเปิดแบรนด์เอสเซ้นส์อีก 1 โครงการ ทำเลสวนหลวงบนพื้นที่ราว 20 ไร่ ซึ่งจะเปิดตัวในไตรมาส 3 ปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการแนวราบพรีเมียมภายใต้แบรนด์พรีมาวิลล่าในโซนฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ 2 โครงการ ทำเลถนนบางแวกและพระราม 2 ซึ่งจะพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 100 ตร.ว. ขายราคา 13-20 ล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินรอการพัฒนาราว 1.2 แสนล้านบาท แต่ก็ยังซื้อที่ดินเพิ่ม สำหรับไตรมาสแรกมีแผนเปิดตัวแนวราบอีก 2 โครงการทำเลรังสิต-ลำลูกกา คลอง 3 มูลค่ารวมราว 2,800 ล้านบาท โดยแต่ละเดือนมีโครงการอยู่ระหว่างการขายเฉลี่ย 5,000 ล้านบาท และสามารถขายได้เดือนละประมาณ 1,300 ล้านบาท

ด้านไตรมาส 2 ปีนี้มีแผนเปิดประมาณ 10 โครงการ มูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท เป็นคอนโด 2 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3 เปิดรวม 10-11 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท เป็นคอนโด 2 โครงการมูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท และในไตรมาส 4 เปิด 7 โครงการ มูลค่ารวม 1.4 หมื่นล้านบาท เป็นคอนโด 1 โครงการ 8,000 ล้านบาท