ออริจิ้นเปิดเกมชิงเค้ก โรงแรม-อสังหาเช่า

โดย...อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

จากแนวโน้มที่ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวและทำงานในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น จากข้อมูลของสำนักบริหารแรงงานต่างด้าวปี 2555-2559 พบว่าจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ (Expat) เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 16% ต่อปี ส่งผลให้ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นตาม ส่งผลให้ดีเวลอปเปอร์ทั้งหลายหันมาสนใจแตกไลน์ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เช่าในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ในระยะยาว

พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า บริษัทมีนโยบายจะขยายธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้บริษัทเป็นผู้นำพัฒนาอสังหาฯ ครบวงจร จึงมีแผนพัฒนาธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ สำนักงานเช่า ค้าปลีก เป็นต้น โดยได้ลงทุนพัฒนาโรงแรม 3 แห่ง มูลค่ารวม 7,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ ล่าสุดได้เซ็นสัญญานำแบรนด์และเชนของเครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) เข้ามาบริหารโรงแรมทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ ขนาด 303 ห้องพัก คาดเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 4 ปี 2562 โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท ชลบุรี ศรีราชา ขนาด 400 ห้องพัก จะเปิดให้บริการไตรมาส 4 ปี 2563 และโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง ขนาด 347 ห้องพัก จะเปิดให้บริการไตรมาสแรกปี 2563

สำหรับการพัฒนาโรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ นั้น ได้จับมือกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ ตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ ออริจิ้น วัน ร่วมพัฒนาโครงการดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนธุรกิจโรงแรมแห่งแรกของโนมูระที่จะนำทั้งเงินและโนว์ฮาวมาเสริมให้โครงการสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนญี่ปุ่นถึง 70%

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูสอีก 3 โครงการ ในช่วงปี 2562-2565 ประกอบด้วย โครงการออริจิ้น 24 มิกซ์ยูส มูลค่า 3,500 ล้านบาท โครงการ HAMPTON1 มิกซ์ยูส มูลค่า 2,000 ล้านบาท และ HAMPTON2 โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ มูลค่า 1,500 ล้านบาท

ด้านแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมในปี 2561 เตรียมพัฒนารวม 2.5 หมื่นล้านบาท โดยเป็นโครงการร่วมทุนราว 2 หมื่นล้านบาท และโครงการแนวราบ 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,600 ล้านบาท ส่วนธุรกิจบริการจะขยายฐานตลาดเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะมีรายได้มากกว่าปี 2560 ที่ทำได้ 100 ล้านบาท

การเปิดตัวทั้ง 3 โปรเจกต์นับเป็น การเปิดเกมรุกตลาดอสังหาฯ เต็มสูบของค่ายออริจิ้น ซึ่งวางเป้าหมาย 5 ปี ดันรายได้แตะ 2.6 หมื่นล้านบาท