"อสังหาฯ"หวังปี61ตลาดขาขึ้น

อสังหาฯ ลุยลงทุนต่อเนื่อง ระบุอานิสงส์อีอีซีสร้างดีมานด์ตลาด ทั้งนี้ให้จับตาเอ็นดีแอล-หนี้ครัวเรือนตัวแปรสำคัญ พร้อมลุ้นตลาดอสังหาฯ ปีหน้าขยับ

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า จากการลงทุนระดับเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะช่วยผลักดันและยกระดับเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน โดยคาดว่าจะมีความต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมากจากแรงงานที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ดังกล่าว

ทั้งนี้ เพื่อให้บริษัทเติบโตต่อเนื่องในปี 2561 จึงมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ใน จ.ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา จำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,500 ล้านบาท แบ่งเป็น ฉะเชิงเทรา จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ บ้านพฤกษา บ้านโพธิ์-มอเตอร์เวย์ ส่วนชลบุรี 3 โครงการ ได้แก่ บ้านพฤกษา หนองมน-ชลบุรี เดอะแพลนท์ หนองมน-ชลบุรี และบ้านพฤกษา ทุ่งกลม-ตาลหมัน

สำหรับระยองมี 3 โครงการ ได้แก่ บ้านพฤกษา ปลวกแดง-อีสท์เทิร์น บ้านพฤกษา เกาะกลอย-ระยอง และเดอะแพลนท์ เกาะกลอย-ระยอง จับกลุ่มลูกค้าที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม โดยจะเริ่มทยอยเปิดขายในเดือน ม.ค.ปีหน้า

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ศึกษาความเป็นไปได้จังหวัดอื่นๆ อีก 23 จังหวัด เช่น นครราชสีมา นครปฐม เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ด้วยดีไซน์ ฟังก์ชั่น นวัตกรรม คุณภาพบ้าน และบริการหลังการขายต่างๆ ที่ได้มาตรฐานเดียวกันทุกโครงการของบริษัท คาดว่าจะประสบความสำเร็จในการทำตลาดต่างจังหวัดเช่นเดียวกับที่เคยรุกตลาดในชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต มาแล้วก่อนหน้านี้

ด้าน นายปริญญา เธียรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ในส่วนของอสังหาฯ เพื่อเช่า โดยเฉพาะโรงแรมปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นมาก จากการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับอสังหาฯ เพื่อขายยังไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ยังขึ้นๆ ลงๆ ส่งผลให้สถาบันการเงินมีมาตรการเข้มงวดในเรื่องของการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่ยังคงมีสัดส่วนอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความสามารถในการกู้ลดลง

สำหรับสถานการณ์อสังหาฯ ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2561 คาดหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะค่อยๆ ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดซึ่งไม่สามารถประเมินระยะยาวได้เหมือนเมื่อก่อน เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะที่อ่อนไหว

อย่างไรก็ดี บริษัทเตรียมเปิดแอสเทรา เบลส เฟส 2 อีก 69 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 8.29 ล้านบาท หลังจากที่เฟสแรกปิดยอดขายไปแล้วกว่า 90% มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท