posttoday

จับตาต่างชาติทิ้งดาวน์คอนโดเริ่มทำกำไรยาก

11 ตุลาคม 2560

ปัจจุบันกลุ่มผู้ซื้อคอนโดในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ต่อโครงการเป็นผู้ซื้อชาวไทย 60% อีก 40% จะเป็นชาวต่างชาติ

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

ปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังซื้อจากกลุ่ม ลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามามีบทบาทสำคัญ กับตลาดที่อยู่อาศัยในเมืองไทยมากขึ้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม จะเห็นได้การเปิดโครงการใหม่ของ ผู้ประกอบการในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะนำห้องชุดในโครงการออกไปโรดโชว์ต่างประเทศ เพื่อให้ปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อถึงเวลาที่โครงการก่อสร้างเสร็จ ปัจจุบันเริ่มเห็นผู้ซื้อ ต่างชาติไม่ยอมรับโอนมากขึ้น

สุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยบริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า เวลานี้เริ่มเห็นการทิ้งเงินดาวน์ของกลุ่มผู้ซื้ออสังหาฯ จากต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีนที่ทิ้งเงินดาวน์ในสัดส่วน 5-10% ของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากประเมินแล้วพบว่าผลตอบแทนการลงทุนไม่คุ้มค่าได้น้อยกว่าที่คาดหวังไว้ จึงทำให้เห็นคอนโดที่เคยประกาศว่าขายโครงการหมดแล้วต้องนำยูนิตกลับทำการตลาดซ้ำ

"ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการไทยนำคอนโดไปขายในจีนค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นการขายโดยใช้เอเยนต์ มีการสัญญาว่าจะได้ผลตอบแทนการลงทุนที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จกลุ่มลูกค้านี้จะให้เอเยนต์ขายออกไป เนื่องจากไม่สามารถทำกำไรได้สูงอย่างที่พอใจ จึงไม่ยอมรับโอนห้องชุดในโครงการ บางส่วนยอมทิ้งดาวน์หรือขายขาดทุนก็มี ดีกว่ารับโอนมาเนื่องจากมองว่าจะเป็นภาระในระยะยาว" สุรเชษฐ กล่าว

ปัจจุบันกลุ่มผู้ซื้อคอนโดในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ต่อโครงการเป็นผู้ซื้อชาวไทย 60% อีก 40% จะเป็นชาวต่างชาติ แต่ถึงแม้ว่ากลุ่มผู้ซื้อต่างชาติ คือ ชาวจีน จะไม่ยอมรับโอนก็ยังเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มียอดปฏิเสธ สินเชื่อที่ยังสูงอยู่

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดคอนโด ปี 2560 แง่ของการเปิดตัวโครงการใหม่ มีการเติบโตขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มียูนิตเปิดใหม่กว่า 1.8 หมื่นยูนิต มากที่สุดในรอบ 5 ปี นับจากปี 2554 หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ เนื่องจากผู้ประกอบการต่างเร่งเปิดตัวโครงการใหม่ เพื่อเร่งทำการตลาดจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายก่อนที่จะมีงานพระราชพิธีในเดือน ต.ค. 2560 ส่วนไตรมาส 4 จะเหลือช่วงทำการตลาด 2 เดือน คาดว่าจะมีโครงการเปิดใหม่เพียง 5,000 ยูนิต ทำให้ทั้งปีคาดว่าจะมีโครงการเปิดใหม่ประมาณ 5 หมื่นยูนิต เติบโต 28% จากปี 2559 ที่มีโครงการเปิดใหม่กว่า 3.9 หมื่นยูนิต

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของกำลัง ซื้อยังไม่ฟื้นตัว หลายทำเลมีอุปทานเหลือขายเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีอุปทานของยูนิตมากอยู่แล้ว ซึ่งภาวะนี้จะทำให้เกิดภาวะสินค้าล้นตลาดได้ในบางทำเล แต่เชื่อว่าตลาดอสังหาฯ จะกลับมาคึกคักได้อีกครั้งในไตรมาสแรก ปี 2561