‘ธนากร ออลล์อินสไปร์’ โตได้ด้วยพันธมิตร

โดย โชคชัย สีนิลแท้

นับวันธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะแข่งขันทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ประกอบการต่างต้องเร่งปรับตัว จากก่อนหน้าได้นำนวัตกรรมการก่อสร้างสำเร็จรูปมาใช้เพื่อช่วยให้การก่อสร้างรวดเร็วขึ้น การสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพเพื่อมาต่อยอดการให้บริการที่ต่อเนื่อง มาจนถึงกระแสการร่วมทุนกับทุนต่างชาติที่มาแรงในเวลานี้

ธนากร ธนวริทธิ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า กลยุทธ์หนึ่งที่จะทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงอย่างในปัจจุบันคือ การหาพันธมิตรที่เข้ามาร่วมลงทุน ซึ่งได้ทั้งแหล่งเงินทุนเพิ่มรวมไปถึงโนว์ฮาว นวัตกรรมทางด้านการออกแบบ และรวมไปถึงฐานลูกค้าเพื่อช่วยให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้บริษัทได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัท ฮูซิเออร์ โฮลดิ้ง บริษัทพัฒนาอสังหาฯ จากญี่ปุ่น ซึ่งได้เริ่มตั้งบริษัทในสิงคโปร์มานาน 3 ปี โดยใช้สิงคโปร์เป็นสำนักงานในการขยายลงทุนไปเวียดนามและกัมพูชานั้น ใช้รูปแบบการซื้อหุ้นในบริษัท อสังหาฯ ที่พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮาส์

สำหรับการลงทุนในไทยนั้นเป็นรูปแบบการร่วมทุนกันครั้งแรก ซึ่งที่ผ่านมา ฮูซิเออร์ยังหาคู่ไม่ได้เนื่องจากพิจารณาหลายบริษัท โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นผู้ที่จับคู่ให้ เริ่มเจรจาร่วมธุรกิจกันตั้งแต่เดือน มี.ค. 2560 เพราะหากไม่ได้รับการแนะนำทางบริษัท ฮูซิเออร์ ก็จะไปเจรจากับบริษัทอสังหาฯ หนึ่งที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ พอดีบริษัทได้ส่งพรีเซนเทชั่นของบริษัทไปให้ฮูซิเออร์พิจารณา ทางฮูซิเออร์ก็ยกเลิกกับบริษัทนั้นทันทีแล้วรับนัดบริษัทให้เข้ามาเจรจา

ที่ผ่านมามีหลายบริษัทเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรที่เป็นกลุ่มทุนญี่ปุ่นไม่ต่ำกว่า 5-6 บริษัทแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แต่ออลล์อินสไปร์ฯ เป็นบริษัทน้องใหม่ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทว่าญี่ปุ่นเขามั่นใจในศักยภาพ มีความโดดเด่น ประเด็นสำคัญคือธนาคารกรุงศรีอยุธยาแนะนำให้เจรจาร่วมทุนกัน เพราะธนาคารกรุงศรีอยุธยาถูก เทกโอเวอร์โดยบริษัท มิตซุย และ ฮูซิเออร์เป็นลูกค้าของมิตซุยอยู่แล้วที่ญี่ปุ่นเหมือนกับว่าธนาคารกรุงศรีอยุธยาจะต้องมั่นใจกับออลล์อินสไปร์ฯ

ทั้งนี้ มีการวางแผนว่าจะพัฒนาโครงการร่วมกันปีละ 6,000 ล้านบาทของเขาขั้นต่ำ โดยทางเราก็มองหาที่ดินเพื่อการพัฒนา ไม่อยากที่จะรีบ อยากให้มีความมั่นใจว่าการพัฒนาโครงการนั้นขายได้จริงเหมือนที่ผ่านมา สามารถส่งมอบงานที่มีคุณภาพได้ เป็นการพัฒนาโครงการร่วมกันแต่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ซึ่งต่อปีก็จะพัฒนา 2-3 โครงการ โดยปี 2560 จะตั้งบริษัทย่อยขึ้นมาร่วมทุนโครงการนำร่องคือ โครงการดิเอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 50 กว่า 700 ยูนิต มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท สามารถปิดการขายได้ในวันเดียว

"ทางญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างจะชอบกับแบรนด์เอ็กเซลเพราะมีการออกแบบที่ดี โครงการแรกที่ร่วมมือกันก็จะทำตามที่ออลล์อินสไปร์ฯ ถนัดไปก่อน ส่วนการพัฒนาในโครงการถัดไปฮูซิเออร์นั้นจะมีโนว์ฮาวใหม่ๆ มาช่วยในการพัฒนา" ธนากร กล่าว

ขณะเดียวกันยังมีแผนที่จะต่อยอดการพัฒนาเป็นโครงการบ้านพักสำหรับผู้สูงอายุที่จะเริ่มได้ในปี 2561 โดยอาจจะพัฒนาในรูปแบบมิกซ์ยูสและสามารถร่วมมือกับพันธมิตรเพิ่มขึ้นได้อีกที่และจะมีอีกพาร์ตเนอร์มาร่วมทางด้านค้าปลีก โรงเรียนนานาชาติ ออลล์อินสไปร์ฯ พัฒนาที่อยู่อาศัย ส่วนฮูซิเออร์นั้นจะพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ เป็นโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส คาดว่าจะเริ่มพัฒนาในภาคตะวันออกที่ จ.ชลบุรี กับทางภาคใต้ จ.ภูเก็ต ทั้งนี้โจทย์สำคัญในการพัฒนาโครงการคือจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน สินค้าตอบโจทย์ ทำเลการพัฒนาได้ ราคาที่ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเอื้อมถึง