"บัวทอง" กางแผนรุก ผุดทาวน์เฮาส์เมืองนนท์

บัวทองฯ กางแผนลุยตลาดจ่อบริหารงานขาย 8-10 โครงการ พร้อมผุดทาวน์เฮาส์ย่านบางบัวทองเพิ่ม ตั้งเป้าปีนี้รายได้แตะ 1,100 ล้าน

น.ส.สุนิสา สุขจั่น รองประธานบริหาร บริษัท บัวทอง แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และกรรมการผู้จัดการบริษัทบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยแผนดำเนินงานในปี 2560 ว่า ในส่วนของธุรกิจรับบริหารงานขายและวางแผนการตลาด ปัจจุบันมีโครงการที่รับบริหารงานขายอยู่ประมาณ 9-10 โครงการ มีทั้งคอนโดมิเนียม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และเนื่องจากมี 4-5 โครงการที่จบสัญญาไปแล้ว ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะรับบริหารโครงการเพิ่ม 8-10 โครงการ โดยในไตรมาส 2 จะมีเข้ามาประมาณ 4-5 โครงการ ขณะที่ในไตรมาสแรกมียอดขายรวม 238 ล้านบาท

สำหรับธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในนามบริษัท บัวทอง แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ นั้น ขณะนี้เหลือโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 2 โครงการ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ 50 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท ได้แก่ โครงการพฤกษ์พิมาน 5 (กาญจนาภิเษก ลาดปลาดุก) เหลือเพียง 20 ยูนิต คาดว่าจะปิดการขายได้ภายในเดือน ส.ค. 2560 และโครงการพฤกษ์พิมานการ์เด้น (วงแหวน-ราชพฤกษ์) ได้เปิดขายเฟส 2 เมื่อต้นปีนี้ จำนวน 71 หลัง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี คาดว่าจะปิดการขายภายในสิ้นปีนี้ จะทำให้บริษัทมีรายได้สิ้นปีนี้ที่ 280 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมหาซื้อที่ดินเพิ่มสำหรับพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ จ.นนทบุรี อย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 1 โครงการ ในย่านบางบัวทองช่วงกลางปีนี้ โดยจะพัฒนาเป็นโครงการทาวน์เฮาส์ เนื้อที่โครงการประมาณ 12-15 ไร่ มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท เปิดขายในราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทได้วางเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ที่ 1,100 ล้านบาท โดยได้มีการปรับกลยุทธ์ใหม่ ซึ่งนอกจากการชูจุดขายในเรื่องของโปรดักต์ที่มีคุณภาพก่อสร้างด้วยอิฐมอญ ซึ่งสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในย่านนี้ แม้ว่าระยะเวลาก่อสร้างและค่าแรงงานจะมากกว่าการก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบาก็ตาม นอกจากนี้ ยังเน้นการทำตลาดช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยวางงบประมาณส่วนนี้ไว้ที่ 2% จาก 3% ของมูลค่าโครงการที่ทำตลาดในปีนี้

อนึ่ง ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ใน จ.นนทบุรี ปี 2560 มีความคึกคักมากขึ้น เนื่องจากมีผู้ประกอบการหลายรายที่ได้ชะลอการพัฒนาคอนโดมิเนียม เนื่องจากหลายพื้นที่ยังมีจำนวนห้องชุดเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก โดยได้หันมาพัฒนาโครงการในพื้นที่ จ.นนทบุรี เพื่อรองรับรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-เตาปูน