posttoday

บ้านจัดสรรวอนรัฐแก้ปัญหา คนกู้ไม่ผ่านพุ่ง

21 พฤศจิกายน 2559

สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เร่งชงรัฐแก้วิกฤตกู้ไม่ผ่าน-ติดเครดิตบูโร หลังตลาดอสังหาฯ ส่ออาการหนัก

สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เร่งชงรัฐแก้วิกฤตกู้ไม่ผ่าน-ติดเครดิตบูโร หลังตลาดอสังหาฯ ส่ออาการหนัก

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า สมาคมเตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภาครัฐเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาสินเชื่อที่อยู่อาศัยและปัญหาเครดิตบูโร ซึ่งยังคงเป็นปัญหาใหญ่และมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้น โดยในส่วนของปัญหาสินเชื่อที่อยู่อาศัย มีด้วยกัน 2 ประเด็นหลัก คือ สินเชื่อฝั่งผู้ประกอบการหรือสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่แบงก์เข้มกับผู้ประกอบการรายเล็กมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กจำนวนไม่น้อยมีปัญหาขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ เพราะแบงก์ไม่ปล่อยกู้

ขณะที่ฝั่งสินเชื่อผู้บริโภคหรือสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยยังคงมีอัตราการถูกแบงก์ปฏิเสธสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดระดับล่างและตลาดระดับกลางเป็นฐานใหญ่สุดของตลาดที่อยู่อาศัย และเป็นตลาดที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อมากที่สุดเช่นกัน โดยกลุ่มลูกค้าของผู้ประกอบการบางรายถูกปฏิเสธสินเชื่อสัดส่วนมากถึง 50% ซึ่งอาจเป็นผลจากการที่แบงก์ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในการปล่อยกู้ จากเดิมที่คุณสมบัติผู้กู้แบบนี้เคยกู้ผ่านในอดีต ปัจจุบันก็ไม่ผ่าน เช่น เดิมแบงก์เคยให้กู้ 50 เท่าของเงินเดือน ก็ลดเหลือ 30 เท่า หรือ 40 เท่า เป็นต้น

“แนวทางในการหารือกับหน่วยงานภาครัฐ จะเป็นในลักษณะที่อยากให้แบงก์พิจารณาใช้เกณฑ์เดิมในการปล่อยกู้ให้กับลูกค้าที่มีคุณสมบัติที่สามารถกู้ได้ซึ่งปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และที่ผ่านมาแบงก์จะยืนยันว่าไม่ได้เปลี่ยนเกณฑ์การพิจารณา แต่ในทางปฏิบัติแล้วก็พบว่า ลูกค้าคุณสมบัติเดิมที่เคยกู้ผ่านในอดีต ปัจจุบันกลับกู้ไม่ผ่าน”

นายอธิป กล่าวว่า ส่วนปัญหาเรื่องเครดิตบูโร ก่อนหน้านี้เคยมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบ้างแล้วเกี่ยวกับระยะเวลาข้อมูลหนี้เสียที่ปัจจุบันยังคงเก็บประวัติหนี้เสียไว้ 3 ปี แม้ว่าจะมีการชำระหนี้สินหมดแล้วนั้น ทำให้คนกลุ่มนี้กู้ซื้อที่อยู่อาศัยได้ยาก จึงอยากเสนออีกครั้งให้เก็บประวัติหนี้เสียไว้เพียง 1 ปี เพื่อให้กลุ่มที่ติดประวัติเป็นปีที่ 2-3 ปี ซึ่งมีจำนวนมากสามารถเริ่มกู้ซื้อที่อยู่อาศัยได้ โดยภาครัฐอาจจะใช้เป็นมาตรการปลดล็อกที่ใช้ชั่วคราวในการฟื้นกำลังซื้อก็ได้

ทั้งนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ต้นปี มีผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวมาก โดยปัจจัยเรื่องกู้ไม่ผ่านก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ตลาดหดตัวต่อเนื่อง เพราะสต๊อกที่มีไม่สามารถขายและโอนให้ลูกค้าได้ เพราะลูกค้ากู้ไม่ผ่านมา เมื่อยังมีสต๊อกค้าง ผู้ประกอบการก็ไม่สามารถลงทุนโครงการใหม่ๆ ได้ ซึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอีก 2.5 เท่า หากปล่อยให้ตลาดอสังหาฯ หดตัวถึง 20% หรือมีมูลค่าการซื้อขายหายไปราว 1 แสนล้านบาท ก็จะกระทบไปยังธุรกิจอื่นมหาศาล จึงเป็นเซ็กเตอร์ที่ภาครัฐควรเร่งแก้ไข

ด้านภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2560 คาดว่ายังทรงตัว เพราะไม่มีปัจจัยบวกมาช่วยกระตุ้นมากนัก เพราะปัจจัยด้านเศรษฐกิจยังต้องดูส่งออกและราคาพืชผลการเกษตร ส่วนการลงทุนโครงการต่างๆ ของภาครัฐปีหน้าต้องชัดเจน จึงจะพอกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้