posttoday

แอล.พี.เอ็น.รุกกลุ่มสูงวัย

28 กรกฎาคม 2557

แอล.พี.เอ็น.รุกกลุ่มสูงวัย ชูครอบครัวสุขสันต์ ขยายตลาด

แอล.พี.เอ็น.รุกกลุ่มสูงวัย ชูครอบครัวสุขสันต์ ขยายตลาด

โดย...วราพงษ์ ป่านแก้ว

นอกจากแนวคิดคอนโดทาวน์จะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จะพยายามนำมาใช้รุกตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง การแตกเซ็กเมนต์และการโฟกัสภาพของการทำตลาดเชิงสังคมให้ชัดขึ้น ผ่านแนวคิดชุมชนน่าอยู่ และครอบครัวสุขสันต์ (Pleasure Family) เป็นอีกกลยุทธ์ที่ แอล.พี.เอ็น.ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน

ด้วยประสบการณ์ในตลาดคอนโด 25 ปี มีโครงการที่พัฒนามาแล้ว 87 โครงการ 278 อาคาร พื้นที่ 4.6 ล้านตารางเมตร จำนวน 8 หมื่นครอบครัว รวม 1.2 แสนคน โดยมีนิติบุคคลที่บริหารโดย แอล.พี.เอ็น. 106 นิติบุคคล สิ่งเหล่านี้ถูกสะสมเป็นองค์ความรู้ที่นำมาใช้เป็นจุดแข็งในการนำมาต่อยอดไปสู่การสร้างชุมชนน่าอยู่ และวิถีครอบครัวสุขสันต์

พิเชษฐ ศุภกิจจานุสันติ์ กรรมการบริหาร บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ กล่าวว่า บริษัทได้รับโอกาสจากเจ้าของร่วมในการเข้าบริหารชุมชนโครงการของบริษัทเอง จึงได้เรียนรู้ในการสร้างจิตสำนึกของการอยู่ร่วมกัน ซึ่งถือเป็นหน้าที่ที่ไม่มีใครทำได้ดีเท่ากับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพราะเราสามารถเข้าไปชี้นำทิศทางที่ถูกต้อง ได้เข้าไปสร้างสมดุลในการบริการชุมชน ระหว่างเจ้าของร่วม กรรมการ และฝ่ายจัดการ เรานำสิ่งนี้มาเป็นข้อได้เปรียบในการทำให้เกิดภาพของสังคมน่าอยู่ขึ้น ซึ่งแม้ว่าจะไม่ 100%

แต่เป็นวิถีของคนส่วนใหญ่ในโครงการยอมรับ แนวคิดดังกล่าวถูกต่อยอดไปเป็นแนวคิดครอบครัวสุขสันต์ หรือ Pleasure Family ซึ่งเป็นแนวคิดที่ต้องการผสานความสมดุลระหว่างวิถีชีวิตในอดีตที่ดูแล ห่วงใย และแบ่งปันกันกับวิถีชีวิตคนเมืองที่มีแต่ความเร่งรีบ ด้วยการออกแบบพื้นที่พิเศษสำหรับครอบครัวที่สามารถใช้ร่วมกันได้ โดยเริ่มจากแนวคิดที่จะพัฒนาคอนโดมิเนียมเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัย ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคม และมีความต้องการที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้สูงอายุได้ ซึ่งจากการเข้าไปดูแลโครงการผู้สูงวัย และ ผลการวิจัยของฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัทที่ได้ทำการเก็บสถิติเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของผู้สูงวัย พบว่าส่วนใหญ่ยังต้องการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางคนวัยหนุ่มสาว เพื่อให้ชีวิตกระฉับกระเฉงและมีกิจกรรมที่มีสีสัน ร่วมกัน

“บริษัทเคยมีประสบการณ์ในการทำอพาร์ตเมนต์ ผู้สูงอายุกับญี่ปุ่น และการพัฒนาโครงการร่วมกับกาชาดไทยทำให้มีองค์ความรู้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุอยู่พอสมควร ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคนที่อยากให้ไปร่วมทำโครงการสำหรับผู้สูงอายุ แต่ด้วยแนวคิดและจากการศึกษาบริษัทต้องการเห็นคนสูงอายุได้อยู่ร่วมกับคนในวัยอื่นๆ ที่สอดคล้องกับสังคมไทยมากกว่า จึงเกิดเป็นแนวคิด Pleasure Family ขึ้นมา” พิเชษฐ กล่าว

การพัฒนาโครงการจึงออกแบบขึ้นมาเพื่อให้เหมาะกับคนทุกวัยในครอบครัว โดยนำแนวคิด Pleasure Family มาอยู่ในชั้น 4-6 ของโครงการลุมพินี วิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ ซึ่งเป็นโครงการนำร่องด้วยการออกแบบห้องชุดพักอาศัยที่นำรายละเอียดของ “Universal Design” เพื่อพร้อมรองรับกับการใช้ชีวิตของผู้สูงวัย เช่น ขนาดห้อง 34 ตารางเมตร ที่อำนวยความสะดวกในกรณีที่ต้องใช้วีลแชร์ เพิ่มราวจับในห้องน้ำเพื่อความปลอดภัย รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ทุกชิ้นในห้องที่ไม่มีเหลี่ยมมุม ปุ่มฉุกเฉินในกรณีต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน

ขณะที่พื้นที่ส่วนกลางจะเป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวของสมาชิกในโครงการ ได้แก่ ห้องครัวรวม พื้นที่สำหรับชมภาพยนตร์ ห้องคาราโอเกะ และกิจกรรมนอกสถานที่ ส่วนทางด้านบริการบริษัทมีการสร้างห้องสุขภาพเพื่อผู้อยู่อาศัย ซึ่งมี เจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีผู้ช่วยพยาบาลประจำเพื่อรับเหตุฉุกเฉินจากห้องชุดพักอาศัย ซึ่งหากมีสัญญาณฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ ก็จะมีระบบส่งต่อไปยังโรงพยาบาล เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการ

แนวคิดของ แอล.พี.เอ็น.ต้องการให้ห้องชุดในโครงการเป็นเหมือนห้องๆ หนึ่งในบ้านหลังใหญ่ เป็นห้องไว้สำหรับนอน พักผ่อน หรือทำกิจกรรมส่วนตัว และออกมาใช้พื้นที่ส่วนกลางในการทำกิจกรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวรวมที่คนในครอบครัว หลายๆ ครอบครัวจะมาใช้ประกอบอาหารทานร่วมกันได้ มีห้องสมุดมีชีวิตที่ร่วมกับอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) จัดให้สำหรับเด็ก วัยรุ่น หรือวัยอื่นๆ มาใช้บริการ สวนสำหรับพักผ่อน ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ เหล่านี้ล้วนเป็นส่วนประกอบของบ้านหลังใหญ่

พิเชษฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการที่พัฒนาภายใต้แนวคิด Pleasure Family ต้นทุนอาจจะสูงกว่าทั่วไป เพราะจะต้องเพิ่มในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และบริการเสริม เช่น บริการทางการแพทย์ ที่จะทำให้พื้นที่สำหรับผู้สูงอายุจะต้องเสียค่าส่วนกลางเพิ่มมากกว่าพื้นที่อื่นๆ ในโครงการ

“ถ้าจะทำตามแนวคิด Pleasure Family ทั้งหมดต้นทุนคงจะสูง แน่นอนว่าจะมีคนกลุ่มที่สามารถซื้อได้ในราคา 2 ล้านบาท แต่จะมีคนอีกกลุ่มที่ซื้อได้แค่ 5 แสนบาท ซึ่งเราในฐานะที่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์มีหน้าที่ต้องทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้น แต่ขณะเดียวกันเราก็ต้องมีหน้าที่ดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย ถ้าไม่สนใจสังคม สิ่งแวดล้อมเลย มันก็ไม่ใช่วิสัยของการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน ซึ่งนักธุรกิจคงจะต้องปรับแนวคิดเรื่องนี้มากๆ โดยการแบ่งกำไรจากโครงการที่มีกำไรมากๆ มาช่วยแชร์ต้นทุน”

พิเชษฐ กล่าว เบื้องต้น แอล.พี.เอ็น.มีโครงการในแนวคิด Pleasure Family 2 โครงการ โดยมีโครงการลุมพินี วิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ เป็นโครงการนำร่องที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว และโครงการลุมพินี พาร์ค รัตนาธิเบศร์-วงศ์สว่าง เป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พิเชษฐตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายตลาดคอนโดในกลุ่มผู้สูงอายุเพิ่มจากปัจจุบันมีกลุ่มคนอายุ 60 ปีขึ้นไปอยู่ในโครงการของ แอล.พี.เอ็น. 1.5%

ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุของประชากรในประเทศอยู่ที่ 14% ถือว่ายังมีโอกาสขยายตัวอีกมาก อย่างไรก็ตาม ตลาดกลุ่มนี้ถือว่ายังไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร เพราะคนสูงอายุยังไม่คุ้นเคยกับการอยู่คอนโด ขณะที่ลูกหลานเองก็ยังกังวลใจหากจะให้ญาติผู้ใหญ่มาอยู่ในอาคารสูงๆ ซึ่งเป็นโจทย์ที่ แอล.พี.เอ็น. จะต้องแก้ต่อไป โดยมีโครงการที่รัตนาธิเบศร์เป็นตัวชี้วัด ถ้าแนวคิด Pleasure Family จุดติด ต่อไปในทุกๆ โครงการจะมีเซ็กเมนต์ดังกล่าวรวมอยู่ด้วย