เยือนเรือนหอ ชัชพล แสงสุรีย์วัชชรา

โดย...วรธาร  ภาพ : วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

เบนซ์-ชัชพล แสงสุรีย์วัชชรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเอ็มโอ (ประเทศไทย) เจ้าของธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าและนำเข้าไวน์วัย 31 ปี ล่าสุดได้แตกไลน์อีก หนึ่งธุรกิจมาเป็นผู้จัดงานเอ็กซิบิชั่นเน้นด้านความสวยความงามเป็นหลัก ซึ่งจะประเดิมด้วยงาน Beauty and Make Over Expo 2017 เป็นงานแรก ระหว่างวันที่ 15-17 มิ.ย.นี้ ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

วันนี้เปิดเรือนหอสุดเลิฟเพราะมาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองล้วนๆ ซึ่งเป็นบ้านสองชั้นในหมู่บ้านมัณฑนา (อ่อนนุช-วงแหวน) ตั้งอยู่ในมุมที่เขาถึงกับออกปากถูกใจมาก

“ผมแพลนว่าจะแต่งงาน เลยมองหาบ้านไว้เป็นเรือนหอ เสิร์ชในอินเทอร์เน็ต พยายามหาบ้านในโซนอ่อนนุช ลาดกระบัง เพื่อจะได้ใกล้กับบ้านหลังปัจจุบันเวลาไปมาหาสู่คุณแม่จะได้สะดวก หาไปหามาดันมาเจอบ้านหลังนี้ในหมู่บ้านที่ตัวเองอยู่เลย ตั้งอยู่ในมุมที่ผมชอบ แต่ว่าบ้านโทรมมาก ลองไปสืบดูก็รู้ว่าบ้านกำลังจะถูกแบงก์ยึด จึงไปคุยกับเจ้าของ เห็นเขากำลังเดือดร้อนลูกชายก็เรียนไม่จบ จึงให้เขาไปคุยกับแบงก์ว่าติดเท่าไหร่ ต้องให้เอเยนต์เท่าไหร่ แล้วเขาเหลือเท่าไหร่ สุดท้ายตกลงที่ราคา 5.3 ล้าน เป็นราคาที่เขาพอใจผมก็พร้อมจ่าย”

เนื่องจากเป็นบ้านที่ทรุดโทรมมากทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงบริเวณพื้นที่บ้านข้างนอกดินมีการทรุดตัวลงเยอะ ชัชพลจึงแก้ไขด้วยการแซะรอบตัวบ้านทำผนังขึ้นมาใหม่ ป้องกันไม่ให้ทรุดเข้าไปข้างใน มีการถมที่ในส่วนของลานจอดรถแล้วตอกเสาเข็มใหม่ 48 ต้น เพื่อป้องกันดินทรุดตัวในอนาคต ส่วนข้างในบ้านก็แก้ไขใหม่ทั้งหมด

“บ้านหลังนี้เดิมเป็นทรงเก่าอยู่แล้ว หลังคาบ้านไม่เป็นทรงโมเดิร์น ผมจึงอินโนเวตใหม่หมดเลย ทั้งภายในและภายนอก ตัวบ้านเมื่อก่อนเป็นสีขาวก็เปลี่ยนมาใช้สีเทา เพื่อให้มีความเป็นโมเดิร์นขึ้นมาหน่อย หรือเวลาสกปรกเป็นเชื้อราขึ้นมาก็จะไม่เห็นชัดเหมือนสีขาว อีกอย่างผมว่าสีเทามันดูสวยนานดี มองไม่เบื่อ

ขณะที่มุมต่างๆ ภายในบ้านไม่ว่าจะห้องนอน ห้องนั่งเล่น เชลฟ์บาร์ มุมกินข้าว มุมออกกำลังกาย ผมทำใหม่หมดและออกแบบเองเลย วอลเปเปอร์ของเก่าก็ขูดออกแล้วแปะของใหม่ลงไป เพราะของเดิมทั้งเก่าและมีกลิ่นอับเหม็นเนื่องจากเจ้าของเลี้ยงสุนัขในบ้าน การออกแบบพยายามให้ออกแนวหลุยส์วินเทจ เนื่องจากผมและแฟนชอบแนวนี้ตรงกัน

มุมเชลฟ์บาร์ดูจะออกแนววินเทจมากสุด ซึ่งผมทำเป็นคิ้วบัวเพื่อให้ดูแมตชิ่งกับแนวหลุยส์วินเทจ ขณะที่ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับรองแขกซึ่งอยู่ชั้นหนึ่งของบ้านก็มีความเป็นหลุยส์ผสมกับสไตล์โมเดิร์นที่ผมมองว่ามีความลงตัวเน้นโทนสีขาว และเป็นมุมโปรดของผมที่ทุกเช้าต้องมานั่งดูทีวีตรงนี้ก่อนออกไปทำงาน” 

การรีโนเวตบ้านหลังนี้ชัชพลใช้เวลาเกือบ 1 ปี สิ้นงบในการทำรวมค่าจ้างช่างอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งเขาบอกว่าถ้าว่าจ้างอินทีเรียร์ด้วยงบคงเกิน 1 ล้านบาทแน่นอน ด้วยเหตุนี้เขาจึงเป็นอินทีเรียร์เอง ออกแบบเอง และหาช่างเฟอร์นิเจอร์มาทำเองทั้งหมด   “เรื่องออกแบบนี่มันอยู่ที่ตัวเรานะว่าอยากได้อะไรแบบไหนก็ออกแบบตามที่เราอยากได้ ถึงผมจะจบรัฐศาสตร์ไม่รู้เรื่องการออกแบบมาเลย แต่ของพวกนี้ผมว่ามันเรียนรู้ได้และแหล่งข้อมูลมีเยอะ แล้วทำยังไงจะเซฟคอสต์ลงมาได้ผมก็เป็นอินทีเรียร์เองเลย ส่วนช่างก็ไปหาช่างที่ทำงานกับอินทีเรียร์ โชคดีที่เขาเข้าใจที่เราออกแบบไป ถ้าผิดก็ให้เขาแก้ก่อนลงแบบ ต้องคอยจี้เหมือนกันเพราะบางทีช่างก็มักง่าย” เจ้าของเรือนหอกล่าว