posttoday

ไอเดียอยู่เย็นเป็นสุข (จบ)

08 เมษายน 2557

5.ยิ่งนั่งยิ่งเย็น

5.ยิ่งนั่งยิ่งเย็น

โซฟาหรือเก้าอี้ที่ต้องสัมผัสตัวผู้ใช้งาน หากไม่ใช่หนังแท้ก็แนะนำให้หาตั่งไม้หรือเก้าอี้หวายจะดีกว่า เพราะโซฟาบุผ้านวมนุ่มๆ ยิ่งนั่งจะยิ่งร้อน บางครั้งก็มีกลิ่นเหม็นอับจากการดูดซับเหงื่อ แถมยังเก็บฝุ่นอีกด้วย

6.เท้าเย็น...กายก็เย็น

พื้นชั้นล่างเลือกปูแผ่นกระเบื้องเซรามิก พอร์ซเลน ดินเผา หรือหินธรรมชาติอย่างหินอ่อนและหินแกรนิตดีกว่า เพราะกักเก็บความเย็นจากพื้นดินได้ดี และระบายความร้อนได้เร็ว ช่วยลดอุณหภูมิพื้นให้เย็นลงได้ เมื่อเท้าสัมผัสจะรู้สึกเย็นสบาย แนะนำให้ใช้กับส่วนทางเดินหลัก ส่วนนั่งเล่นหรือห้องนอน อย่ากลัวว่าจะให้ความรู้สึกเหมือนห้องน้ำ เพราะเดี๋ยวนี้มีกระเบื้องลายสวยน่าใช้ให้เลือกมากมาย

7.เลิกใช้หลอดไส้

ใครยังใช้หลอดไส้กับโคมไฟแนะนำให้เปลี่ยนมาใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ หลอด T5 หรือหลอดแอลอีดีจะดีกว่า เพราะนอกจากจะให้ปริมาณแสงสว่างน้อยกว่าแล้ว หลอดไส้ยังปล่อยความร้อนออกมามากถึง 100–400 องศาเซลเซียส รับรองว่าเปลี่ยนแล้วจะช่วยประหยัดเงินและลดความร้อนภายในบ้านด้วย

8.กันแดดไม่ให้เข้า

อีกวิธีที่ช่วยให้บ้านไม่ร้อนคือป้องกันแสงแดดเข้าสู่บ้านโดยตรง หน้าต่างบานใหญ่ด้านทิศตะวันตกและใต้ควรติดฟิล์มกันความร้อนและติดตั้งผ้าม่านกันแสง (Blackout) เพิ่ม เพื่อช่วยกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านในช่วงกลางวัน หน้าต่างบานเล็กหรืออยู่ทิศอื่นอาจใช้ผ้าม่านสองชั้น ชั้นหนึ่งเป็นผ้าโปร่ง อีกชั้นเป็นผ้าม่านทึบ ก็ช่วยกรองแสงเข้าบ้านในช่วงกลางวันได้

9.ยื่นกันสาด

ป้องกันความร้อนเข้าสู่บ้านโดยตรงด้วยการติดตั้งกันสาดในบริเวณที่โดนแสงแดดเต็มๆ เลือกติดได้ทั้งแนวตั้ง แนวนอน และแนวผสม แล้วแต่ทิศทางของแสงเช่น ผนังด้านทิศใต้ควรติดตั้งแบบผสม ทิศตะวันออกและตะวันตกควรติดตั้งกันสาดในแนวตั้ง โดยเลือกใช้วัสดุที่ไม่สะสมความร้อนอย่างไม้ระแนง กระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ และหลังคาโลหะรีดลอน บริเวณโดยรอบก็ปลูกต้นไม้ หรือใช้วัสดุธรรมชาติอย่างหินกรวดแทนพื้นคอนกรีต ก็ยิ่งช่วยระบายความร้อนได้เร็วยิ่งขึ้น