ไพโรจน์ วัฒนวโรดม บ้านคือชีวิตของเรา

เรื่อง : โยธิน อยู่จงดีภาพ : ภัทรชัย ปรีชาพานิช

"สำหรับผมแล้วเราทำงานหนักในทุกๆ วันเพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว แต่มันจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้าเราไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว อยู่กับคนที่เรารัก อยู่กับบ้านที่เป็นชีวิตของเรา"ไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี.แอสพลัส และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ เล่าถึงความสุขของชีวิตในบ้านที่ซึ่งเป็นคำตอบที่บอกเล่าตัวตนของเขาได้เป็นอย่างดี

ผู้บริหารรุ่นใหญ่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์เปิดบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งตกแต่งเสร็จสวยงาม รอรับลูกชายเรียนจบจากอังกฤษ โดยเฉพาะบ้านที่เชื่อว่าทุกคนเห็นแล้วจะต้องชอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตกแต่งอย่างลงตัว แต่เมื่อมองลึกลงไปในเนื้องานจะพบความเนี้ยบในทุกตารางนิ้ว ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพในวงการอสังหาริมทรัพย์ของเขาได้เป็นอย่างดี

ไพโรจน์ เล่าถึงการตกแต่งบ้านหลังนี้ต่อว่า "ผมอยู่ ในวงการอสังหาริมทรัพย์มานาน ทำบ้านให้ลูกค้ามาไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร ดังนั้นผมจะรู้ว่าใครเก่งอะไรแล้วก็มาทำให้ผม อย่างบ้านหลังใหม่ของลูกชายนี้ผมให้ นักออกแบบที่ผมรู้จักและเชื่อใจมากที่สุดเป็นคนออกแบบให้ โดยให้โจทย์เขาไปว่าตอนนี้ลูกชายชอบเรื่องราวของอัศวินยุคกลาง ยุคที่ใส่เกราะเหล็ก ขี่ม้าถือดาบ และความต้องการด้านอื่นๆ เช่น มุมกาแฟ ห้องพระ ห้องนั่งเล่น อยากให้เป็นแบบไหน"

สุดท้ายก็ได้บ้านออกมาในสไตล์ยุคกลางผสมความเป็นโมเดิร์น เพราะอย่างไรบ้านหลังนี้เจ้าของบ้านก็ยังเป็นคนรุ่นใหม่ๆ ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ทันสมัย แต่ยังแฝงความชอบส่วนตัวเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์ไม้ และเฟอร์นิเจอร์หนังแบบคลาสสิก ตกแต่งของเก่าที่ดูย้อนยุค ผสมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความเป็นโมเดิร์น อย่างลงตัว ผสมกับการจับคู่สีเอิร์ทโทน ในส่วนของวอลเปเปอร์ พื้น และผ้าม่านให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย น่าอยู่

สำหรับเฟอร์นิเจอร์นั้น ไพโรจน์ เล่าที่มาที่ไปว่า ส่วนมาก จะเป็นของเก่าที่เราเคยซื้อเก็บสะสมเอาไว้ อย่างโต๊ะ รับประทานอาหาร เก้าอี้ ของตกแต่งโบราณที่เห็นอยู่เป็นของมือสองจากต่างประเทศเกือบทั้งหมด นำมาปรับปรุงซ่อมแซมให้กลับมาอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ โดยไม่ต้องซื้อใหม่ แต่ข้อเสียก็มีคือบางทีก็ไม่ได้มาแบบครบชุด

โชคดีอย่างหนึ่งก็คือเรารู้จักช่างเก่งๆ ที่เขาสามารถทำให้เราตรงนี้ได้ เดี๋ยวนี้หาช่างฝีมือของโบราณได้ยาก ลองนึกภาพตู้นาฬิกาลูกตุ้มแบบโบราณที่เคยใช้ในบ้านคนไทยสมัยก่อน พอพังแล้วหาช่างซ่อมเก่งๆ ยากมากบ้างก็ ปรับเอาระบบลานสมัยใหม่มาใช้แทน แต่ก็สู้ของเดิม ไม่ได้อยู่ดี "ผมมองว่าของโบราณเหล่านี้ใช้ทนมากๆ เอามา ซ่อมแซมหน่อยก็กลับมาใช้งานได้หลายสิบปี"

เจ้าของบ้านเล่าถึงแนวทางในการแต่งบ้าน "บ้านหลังนี้ ของลูกแต่งสไตล์ยุคกลาง แต่บ้านอีกหลังของผมซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันจะตกแต่งบ้านสไตล์จีนเจ้าสัว บ้านที่ระยองก็แต่ง อีกแบบหนึ่ง แต่แนวทางหลักในการแต่งบ้านทำบ้านของผม ก็คือต้องทำให้คนในครอบครัวเราอยู่สบาย มีความสุขที่ได้อยู่บ้าน ที่ใช้คำว่าคนในครอบครัว คือต้องเป็นบ้านที่มีพื้นที่สำหรับทุกคน ไม่ใช่เฉพาะคนใดคนหนึ่งอยู่สบาย แต่ต้องเป็นของทุกคนที่อยากจะทำอะไรก็สามารถทำที่บ้านได้ อยากจะดูหนัง ฟังเพลง ทำบาร์บีคิวด้วยกันในสวนก็ทำได้

บ้านเป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์ใช้ชีวิตของเราให้มากที่สุด ไม่ใช่ถึงวันหยุดก็ต้องออกนอกบ้านไปเดินห้าง แสดงว่าบ้านที่เราอยู่ไม่สามารถให้ในสิ่งที่เราต้องการได้ ในอีกความหมายหนึ่งผมมองว่าบ้านเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางในการดำเนินชีวิตของเราด้วย จะสุข จะทุกข์ เราก็กลับมาที่บ้าน เราชอบในสิ่งไหนสนใจในสิ่งไหน สิ่งนั้น ก็จะปรากฏอยู่ในบ้าน ดังนั้นบ้านจึงสะท้อนชีวิตของเราออกมาได้ดีที่สุด"