เยือนเพนต์เฮาส์หรู ชลลดา รัชตพัฒน์ คูเปอร์
อ้อม-ชลลดา รัชตพัฒน์ คูเปอร์ นักสร้างแบรนด์คนดัง ที่ปรึกษาด้านความงามและบุคลิกภาพแห่งเทอร่าคลินิก
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์
อ้อม-ชลลดา รัชตพัฒน์ คูเปอร์ นักสร้างแบรนด์คนดัง ที่ปรึกษาด้านความงามและบุคลิกภาพแห่งเทอร่าคลินิก ผู้ร่วมก่อตั้งโปรแกรม 90 days Transformation วันนี้เปิดคอนโดมิเนียมสุดหรูใจกลางเมืองย่านสาทรให้ทีมงานโพสต์ทูเดย์เข้าเยี่ยมชม
คอนโดมิเนียมหรูตกแต่งสไตล์มินิมัลลิสต์ ลิฟวิ่ง (Minimallist living) ให้ความเท่และเรียบเก๋ไม่เหมือนใคร ตั้งอยู่ที่นนทรีคอนโดมิเนียม บนถนนสาทร การเดินทางสะดวกสบายเชื่อมต่อหลายเส้นทาง โดยที่พักของเธอเป็นเพนต์เฮาส์ชั้นบนสุดของตึกราคา 20 ล้านบาท (ไม่รวมค่าออกแบบตกแต่ง) อ้อมอยู่อาศัยที่นี่มา 5 ปีแล้ว
สำหรับการออกแบบตกแต่ง แดนนี่ คูเปอร์-สามี เป็นคนคิดคอนเซ็ปต์ทั้งหมด “ตลอดระยะเวลาที่ก่อสร้างและตกแต่งภายใน สามีจะไม่ให้อ้อมเข้าไปยุ่งเลย รู้ว่าปวดหัว รอทำเสร็จเปิดบ้านทีเดียว เซอร์ไพรส์เลย ซึ่งเซอร์ไพรส์จริงๆ”
ออกแบบบ้านได้ดีเพียงไร ก็เท่ากับการออกแบบชีวิตได้ดีเพียงนั้น เพนต์เฮาส์ 2 ชั้นบนสุดของตึก ชั้นล่างประกอบด้วยห้องรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น มีครัวแบบเปิด ห้องฉายภาพยนตร์หรือซีนีมารูม ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องนอนของสมาชิกทุกคน
สามีเป็นคนอังกฤษ ข้าวของในบ้านส่วนใหญ่นำเข้าจากอังกฤษและอิตาลี อย่างที่บอกว่าตกแต่งสไตล์น้อยชิ้น ก็เป็นอะไรที่น้อยชิ้นอย่างที่สุด แต่ก็ลงตัวอย่างที่สุดเช่นกัน มุมโปรดของอ้อมคือ วิว แอเรีย หรือมุมดูวิว จะมีโซฟายาวที่ตั้งอยู่ติดริมผนังกระจกบานใหญ่แบบพาโนรามา มองไปคือทั้งกรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ได้มองเห็นวิวกลางเมืองที่สวยมากจากตรงนี้
ครอบครัวคูเปอร์ มีสมาชิก 4 คน นอกจากสามีและอ้อม ยังมีสาวน้อยแอนนาเบล วัย 9 ขวบ ลูกสาวคนโต และแฮรี่ ลูกชายคนเล็กวัย 5 ขวบ ทุกคนในบ้านสามารถใช้พื้นที่ทุกตารางเมตรทำกิจกรรมร่วมกันได้ มุมโปรดของอ้อมนอกจากมุมดูวิวแล้ว ที่ชอบมากอีกมุมคือ ห้องน้ำ เนื่องจากพิถีพิถันเรื่องของการดูแลตัวเอง เพราะฉะนั้นก็ชอบใช้เวลาในการบำรุงผิว แช่น้ำผ่อนคลาย
“ห้องน้ำไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามอย่างเดียว แต่คือความสบายใจและการปล่อยวาง เวลาอยู่ในห้องนี้เหมือนได้ผ่อนคลายนะ จากุซซี่ขนาดใหญ่ เปิดม่าน มองวิวกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนซึ่งสวยจับใจ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขนะคะ (หัวเราะ)”
สำหรับห้องฉายภาพยนตร์ เป็นพื้นที่สุดโปรดปรานของเด็กๆ ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันในการชมภาพยนตร์ สมาชิกในบ้านหลังนี้ไม่ออกไปดูหนังละครนอกบ้าน แต่ใช้เวลาอันมีค่าร่วมชมภาพยนตร์ด้วยกัน เด็กๆ สนุกกันมาก ส่วนการตกแต่งแนวมินิมัลลิสต์เป็นอะไรที่ถูกใจที่สุด เพราะหมายถึงการบริหารจัดการชีวิตที่ลงตัว ทุกอย่าง “ไม่เยอะ” พลอยทำให้การจัดการชีวิตก็ง่ายไปด้วย ชีวิตดำเนินตามแผน ชีวิตวันพรุ่งนี้ถูกจัดวางไว้ตั้งแต่วันนี้เพราะบ้านที่จัดสรรภายในด้วยความเรียบง่ายและของน้อยชิ้นที่ไม่ทำให้ปวดหัว
“ชีวิตง่ายขึ้น เหมือนเรารู้ว่าเราจะทำอะไร เรารู้ทุกอย่าง เรารู้ว่าสิ่งที่เราต้องการอยู่ตรงไหน พรุ่งนี้เราจะใส่เสื้อสีอะไร ชุดไหนอยู่ตรงไหน กระเป๋าใบไหน ไม่เสียเวลากับสิ่งที่ไม่คู่ควร ทุกอย่างง่ายไปหมด บ้านที่ดีทำให้เราทุ่มเทกับการทำงานได้เต็มที่ ดูแลคนในครอบครัวของเราได้เต็มที่ ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว” สาวสวยนักบริหารคนเก่งเล่าพร้อมรอยยิ้ม
สำหรับอ้อมแล้วที่นี่จึงเป็นยิ่งกว่าบ้าน เพราะทุกตารางเมตรคือความสุข คือพื้นที่ที่มีชีวิตและการทุ่มเทเอาใจใส่ สาวสวยเล่าด้วยว่า ไม่ว่าเธอจะทำอะไรอยู่ตรงไหนจุดไหนของบ้าน เธอจะอยู่ตรงนั้นและให้ความสำคัญ ให้ความใส่ใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เช่น ถ้าเล่นกับลูกๆ ก็จะไม่รับโทรศัพท์ ให้ความสำคัญกับพื้นที่ของความสุข