ภูวดล ภูมิถาวร กับห้องสไตล์อินดัสเทรียล-ลอฟต์

โดย...ภาดนุ ภาพ ประกฤษณ์ จันทะวงษ์

แจ๊ค-ภูวดล ภูมิถาวร เจ้าของธุรกิจร้านขายส่งเสื้อผ้าแบรนด์ “ทไวซ์” (Twice) ผู้เป็นเจ้าของห้องชุดดูดีมีสไตล์ เปิดประตูต้อนรับและนั่งพูดคุยกับเราถึงที่มาที่ไปในการตกแต่งห้องทั้งหมดบนชั้น 2 ของตึกแถวธรรมดาๆ ให้กลายเป็นห้องที่มีความยูนีกไม่เหมือนใคร

“เมื่อก่อนผมเคยทำงานที่ บริษัท โอกิลวี่ แต่ตอนนี้มาทำธุรกิจเปิดร้านขายส่งเสื้อผ้าของตัวเอง พอทำมาได้สักพักก็เก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ผมเลยคิดว่าอยากจะซื้อคอนโดอยู่เองสักห้อง เพราะอยากมีพื้นที่ส่วนตัว แต่คุณแม่ไม่เห็นด้วย ไม่อยากให้ผมแยกออกไป ท่านก็เลยเสนอให้ผมลองมาปรับปรุงที่ชั้น 2 ของตึกแถวของครอบครัวเรา ซึ่งคนเช่ากำลังจะย้ายออกพอดี อีกอย่างแม่ไม่อยากให้ผมเป็นหนี้นานๆ เมื่อลองมาคิดดูแล้วผมก็เลยเห็นด้วย”

 

แจ๊ค บอกว่า ก่อนตัดสินใจที่จะรีโนเวต เขาเคยลองขึ้นมาดูสถานที่แล้ว ตอนแรกก็ยังนึกไม่ออกว่าจะสามารถปรับปรุงให้เป็นห้องชุดสวยๆ เหมือนคอนโดได้ยังไง เพราะตอนนั้นในหัวยังไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องจ้างอินทีเรียร์ ดีไซเนอร์มาช่วยออกแบบให้

“พอดีว่าผมมีเพื่อนสนิทที่รู้จักอินทีเรียร์ฯ คนหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบอกว่าฝีมือดีมาก ผมก็เลยลองโทรนัดให้เขามาดูห้องก่อน พอเขาเห็น เขาก็บอกว่าอยากทำ เพราะดูจากโครงสร้างและมุมของห้องแล้วน่าจะตกแต่งออกมาสวย เมื่อเขาให้ความมั่นใจขนาดนั้น ผมก็ตอบตกลงเลยครับ

 

หลังจากคุยรายละเอียดคร่าวๆ แล้ว อินทีเรียร์ฯ ก็พาผู้รับเหมาที่เขารู้จักมาดูห้องพร้อมกัน ซึ่งแรกๆ ผมก็แอบกังวลใจว่าเขาจะรับงานรีโนเวตห้องเล็กๆ บนชั้น 2 ของตึกแถวนี้จริงๆเหรอ เพราะเท่าที่รู้มาเขารับแต่งานใหญ่ๆ ทั้งนั้น แต่สรุปว่าเขารับทำให้เราเพราะเขาอยากทำ ดังนั้นห้องโฉมใหม่ที่สวยกว่าเดิมจึงเริ่มจากตรงนี้”

แจ๊ค บอกว่า การรีโนเวตใช้เวลานานถึง 3 เดือน เริ่มจากการดูสภาพห้อง การออกแบบ และลงมือทำซึ่งถือว่าใช้เวลาพอสมควร เพราะนอกจากงานอินทีเรียร์ฯ แล้ว ยังต้องมีงานของช่างปูกระเบื้อง ช่างปูน ช่างไม้ ช่างไฟ และช่างทาสีด้วย มีกรณีนึงปูกระเบื้องแล้วไม่เนี้ยบอินทีเรียร์ฯ ก็สั่งรื้อแล้วปูใหม่หมดเลย เพราะเขาค่อนข้างจะเนี้ยบในเรื่องรายละเอียดมากๆ

 

“คอนเซ็ปต์โดยรวมจะเป็นสไตล์อินดัสเทรียล-ลอฟต์ ซึ่งตอนแรกที่ผมคิดไว้คืออยากได้สไตล์ลอฟต์ที่เป็นแบบปูนเปลือย แต่พอมาคุยกับอินทีเรียร์ฯ เขาก็ให้ความเห็นว่าห้องที่เราอยู่อาศัยไม่ใช่ร้านกาแฟที่วันหนึ่งเราจะใช้เวลาอยู่แค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ห้องของเรา เราต้องอยู่เกือบตลอดทั้งวัน ปูนเปลือยจึงอาจจะดูดิบเกินไป ซึ่งฟังเหตุผลแล้วผมก็เห็นด้วยนะ

ดังนั้น ห้องสไตล์อินดัสเทรียล-ลอฟต์ ที่มีความเป็นโมเดิร์นจึงเกิดขึ้น โดยมีทั้งผนังอิฐเปลือยที่ดูอบอุ่น กระเบื้องแฮนด์เมดสีขาวที่ให้ความรู้สึกว่ามีเท็กซ์เจอร์ โทนสีที่ใช้ก็มีทั้งสีขาวที่ทำให้ดูกว้าง สีเทาที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นโมเดิร์น ตู้บิวต์อินและโต๊ะที่ทำจากไม้ โครงหน้าต่างเหล็กที่ให้ความดิบนิดๆ กับกระจกที่ให้แสงสว่างจากภายนอกตัวตึก รวมทั้งพื้นห้องที่ทำจากไม้เอ็นจิเนียริ่งวู้ด ซึ่งเป็นวัสดุสมัยใหม่ที่ผิวหน้าเป็นไม้จริงด้วย

 

นอกจากนี้ ยังมีส่วนของทางเดินที่จะมีตู้เสื้อผ้าและตู้รองเท้าแบบบิวต์อิน รวมทั้งห้องครัวเล็กๆ และห้องน้ำก็ตกแต่งใหม่ให้สวยงามดูเข้ากัน ซึ่งโดยรวมแล้วผมชอบมาก แล้วที่หน้าต่างห้องนอนยังมองเห็นรถไฟฟ้าวิ่งผ่านอีกด้วย จึงได้อารมณ์เหมือนซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้าเลยครับ”

แจ๊ค ทิ้งท้ายว่า มุมโปรดของเขาก็คือห้องนั่งเล่นที่มีโซฟานุ่มๆ นั่งสบายนี่แหละ เพราะเป็นมุมที่เขาใช้เวลากับมันมากที่สุดแล้วละ...“คำว่าบ้านสำหรับผมแล้ว ไม่ว่าบ้านจะเล็ก จะใหญ่ หรือจะตกแต่งสไตล์ไหนก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องอยู่แล้วมีความสุข นอนหลับสบาย ตื่นมาแล้วรู้สึกสดชื่น นี่แหละคำว่าบ้านในฝันสำหรับผม”