ทุนญี่ปุ่นหวังโกยยอดวัสดุก่อสร้างไทย
กลุ่มทุนญี่ปุ่นกางวิสัยทัศน์ 5 ปี ตั้งเป้าดันยอดขายวัสดุก่อสร้างในไทย ทะลุ 1.8 หมื่นล้าน
กลุ่มทุนญี่ปุ่นกางวิสัยทัศน์ 5 ปี ตั้งเป้าดันยอดขายวัสดุก่อสร้างในไทย ทะลุ 1.8 หมื่นล้าน
นายฮิโรชิ ไซโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทอสเท็มไทย มาร์เก็ตติ้ง ผู้ผลิตและจำหน่ายประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมสำเร็จรูปแบรนด์ “ลิคซิล” จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า วิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจในช่วง 5 ปีนับจากนี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ 18,675 ล้านบาท หรือ 617 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ยอดขายจะมาจาก 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย 1.วัสดุก่อสร้างงานอลูมิเนียม ได้แก่ ประตูหน้าต่างสำเร็จรูป 2.สุขภัณฑ์และกระเบื้องของอเมริกัน สแตนดาร์ด หลังจากที่อิแนกซ์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตสุขภัณฑ์รายใหญ่ในเครือเจเอส กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ได้เข้าซื้อกิจการของอเมริกัน สแตนดาร์ด เอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่ปี 2552 ทำให้สินค้าของอเมริกัน สแตนดาร์ดทั้งหมดอยู่ในกลุ่มธุรกิจของบริษัท ส่วนธุรกิจที่3. คือ พลังงานทางเลือกที่เกี่ยวข้องกับบ้าน และ 4.ชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่ทำมาจากอลูมิเนียม ผลิตเพื่อป้อนให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ
ส่วนยอดขายหลักในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมาจากธุรกิจวัสดุก่อสร้างงานอลูมิเนียมมากที่สุด คือ 9,000 ล้านบาท รองลงมาคือ สุขภัณฑ์และกระเบื้องของอเมริกันสแตนดาร์ด 6,400 ล้านบาท โดยปัจจุบันธุรกิจประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมเติบโตควบคู่ไปกับภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ต้องยอมรับว่าผลิตภัณฑ์ประตูหน้าต่างยังไม่ค่อยอยู่ในความสนใจของผู้บริโภค อีกทั้งแบรนด์ลิคซิลยังไม่เป็นที่รู้จักในตลาดไทยมากนัก บริษัทจึงวางแผนสร้างแบรนด์ผ่านการทำตลาดผ่านสื่อ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ รวมถึงการออกบูธในงานสถาปนิกต่างๆ และการจัดกิจกรรมให้ความรู้แนะนำผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการเปิดลิคซิล แกลเลอรี่ ที่ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์
นายไซโตะ กล่าวว่า จากการรุกสร้างแบรนด์ และตลาดไทยอย่างจริงจังบริษัทจึงได้ปรับลดราคาสินค้าลง 30% ให้เหมาะกับตลาดไทย ส่งผลให้ราคาจำหน่ายปัจจุบันถูกกว่าคู่แข่ง 10% ในส่วนการผลิตทางบริษัทแม่ได้ลงทุนต่อเนื่องตลอด 20 ปีที่ผ่านมาที่โรงงานนวนคร ภายใต้งบลงทุนประมาณ 650 ล้านเหรียญสหรัฐ และปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 5,000 ตันต่อเดือน ซึ่งภายใน 3 ปีจะเพิ่มกำลังการผลิตให้เต็ม 8,000 ตันต่อเดือน เพื่อรองรับการขยายตลาดในไทย สำหรับยอดขายของบริษัทในปีนี้วางไว้ 800 ล้านบาท เฉพาะในส่วนของประตูหน้าต่างสำเร็จรูป ขณะที่ภาพรวมของตลาดงานอลูมิเนียมประมาณ 9 หมื่น ตันต่อปี แบ่งเป็น วัสดุก่อสร้าง 50% และในงานอุตสาหกรรม 50%