posttoday

ซื้อบ้านแนวรถไฟฟ้า

22 กุมภาพันธ์ 2554

การซื้อบ้านในลักษณะนี้ จึงคล้ายกับการกะช่วงจังหวะของตลาดหรือ Market Timing ของนักลงทุนในตลาดหุ้น คือซื้อถูกเผื่ออนาคตที่แพงกว่าไว้...

การซื้อบ้านในลักษณะนี้ จึงคล้ายกับการกะช่วงจังหวะของตลาดหรือ Market Timing ของนักลงทุนในตลาดหุ้น คือซื้อถูกเผื่ออนาคตที่แพงกว่าไว้...

โดย...สัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูล

สังเกตกันให้ดี ทุกวันนี้ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยแทบทุกรายในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เมื่อจะถึงเวลาต้องทำโฆษณาขายบ้าน ต่างล้วนจะชูจุดขายสำคัญที่สุดเหมือนๆ กันหมดว่าใกล้รถไฟฟ้า บางครั้งระบุว่าระยะห่างจากรถไฟฟ้าไม่กี่ร้อยเมตร หรือไม่กี่นาที

ประเด็นที่ผู้ซื้อบ้านต้องสนใจตรวจสอบคือ ที่ว่าไม่กี่ร้อยเมตรนั้น วัดจากโครงการถึงส่วนไหนของสถานี เช่น วัดลากเป็นเส้นตรงหรือวัดตามแนวเส้นทางถนนตรอกซอย วัดถึงแนวรถไฟฟ้า หรือวัดถึงตัวสถานี หรือวัดถึงปากทางเข้าสถานี และที่ว่าไม่กี่นาทีนั้น วัดเวลาไหนของวัน วันไหนของสัปดาห์ เช่น เป็นเวลาเร่งด่วนตอนเช้า-เย็น หรือเวลาสบายๆ เสาร์-อาทิตย์-วันหยุดราชการ หากผู้ซื้ออยากรู้คำตอบแน่ๆ คงต้องลองไปเดินดูหรือขับรถดูตามเส้นทางที่ระบุ

นอกจากนี้ ยังต้องดูว่าเป็นแนวรถไฟฟ้าปัจจุบันที่มีการเปิดให้บริการแล้ว หรือเป็นแนวรถไฟฟ้าปัจจุบันที่ยังไม่เปิดให้บริการ หรือเป็นแนวรถไฟฟ้าในอนาคตที่กำลังมีการก่อสร้างอยู่ให้เห็นเป็นรูปธรรมแล้ว หรือมีการเปิดประมูลยื่นซองกันไปแล้วและน่าจะได้สร้างในไม่กี่ปีข้างหน้านี้ หรือเป็นแนวที่ยังเถียงกันไม่เสร็จ หรือยังเวนคืนไม่ได้

จะว่าไปแล้ว หากมีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนครบถ้วนกันทุกสาย และกระจายไปทุกทิศทุกทางตามที่เคยมีการแจกแจงกันมาจริง ก็เชื่อได้ว่าในอนาคตอีกประมาณ 10 ปีบวกลบ แทบทุกตารางกิโลเมตรในกรุงเทพฯ และเขตต่อเมืองของกรุงเทพฯ ล้วนจะอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้ากันหมด และถ้าเป็นเช่นนั้น หลับตาจิ้มโครงการไหนก็อยู่ในแนวรถไฟฟ้ากันหมด ไม่น่าจะแตกต่างกันมากนัก

สิ่งที่แตกต่างกันในการซื้อบ้านสำหรับผู้ที่ใส่ใจในเรื่องโครงการใกล้แนวรถไฟฟ้า จึงน่าจะเป็นเรื่องของการซื้อเวลามากกว่า กล่าวคือ หากซื้อห้องชุดคอนโดมิเนียมในโครงการหนึ่งซึ่งสร้างเสร็จแล้วและติดแนวรถไฟฟ้าเส้นทางปัจจุบัน ก็เพราะต้องการใช้ประโยชน์จากความสะดวกในการเดินทางได้เลย ไม่ต้องรอลุ้นระทึกวันข้างหน้า

หากซื้อโดยการจองหรือผ่อนดาวน์โครงการ ซึ่งคาดว่าจะสร้างเสร็จในระยะเวลาอีก 2-3 ปีข้างหน้า เพราะคาดว่าโครงการบ้านนั้นจะก่อสร้างเสร็จเข้าอยู่ได้ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับเวลาที่รถไฟฟ้าสายใหม่จะสร้างเสร็จ หรือซื้อที่ดินจัดสรรหรือบ้านจัดสรรในเขตต่อเมืองเก็บไว้รอวันเกษียณ โดยคาดว่าเมื่อถึงวันนั้นจะใกล้เวลาที่รถไฟฟ้าจะวิ่งมาหาพอดี

การซื้อบ้านในลักษณะนี้ จึงคล้ายกับการกะช่วงจังหวะของตลาดหรือ Market Timing ของนักลงทุนในตลาดหุ้น คือซื้อถูกเผื่ออนาคตที่แพงกว่าไว้ ทั้งนี้ในกรณีของบ้านอาจไม่ได้หมายถึงกำไรในรูปของตัวเงินเสมอไป แต่อาจหมายถึงกำไรความสะดวกสบายของชีวิตในอนาคต

มีเงินเผื่อไว้เท่าไรเป็นเรื่องหนึ่ง มีเวลาเผื่อไว้อีกเท่าไรก็เป็นองค์ประกอบสำคัญพอๆ กันในการซื้อบ้าน