บ้านแสนรักของสาวเสียงสวย สุธิดา พลาวงศ์
นอกจากลงมือออกแบบเองแล้ว สาวคนนี้ยังลงแรงในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน และควบคุมงานสร้างด้วยตนเอง เวลากว่า 2 ปีเต็มที่เนรมิตบ้านหลังนี้...
นอกจากลงมือออกแบบเองแล้ว สาวคนนี้ยังลงแรงในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน และควบคุมงานสร้างด้วยตนเอง เวลากว่า 2 ปีเต็มที่เนรมิตบ้านหลังนี้...
เรื่อง ดวงสมร-ณัฐพล / ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข
ดีเจเจ้าของบ้านหุ่นนางแบบเปิดบ้านในซอยลาดพร้าว 34 รับเราด้วยรอยยิ้ม...
แฟนรายการวิทยุ 89 ชิลล์ เอฟเอ็ม คุ้นเสียงเธอดีอยู่แล้ว ในฐานะดีเจสาว พัฟ-สุธิดา พลาวงศ์ และคุ้นหน้าเธอจากการเป็นพิธีกรรายงานกรีน เรกคอมเมนต์ ออกอากาศทางกรีน แชนแนล และไลฟ์ พลัส ช่องทีเอ็นเอ็น
สาวคนนี้ยังขึ้นแท่นเป็น Music Director ทำหน้าที่คัดเลือกเพลงที่เหมาะกับแนวของคลื่นอีกด้วย ทำงานเยอะขนาดนี้ ท่าทางว่าดีเจสาวสวยคนนี้จะเป็นคนหลงงานตัวจริง!
“บ้านหลังนี้อายุได้ 30 กว่าปีแล้ว รู้สึกผูกพัน เพราะว่าอยู่ที่นี่ตั้งแต่เรียนจบอนุบาลที่หัวหิน แต่โตแล้วงานยุ่ง ถ้าไม่มีธุระจะชอบอยู่บ้าน เพราะรู้สึกสบาย ได้พักผ่อน ไม่ต้องคิดอะไรมาก” เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก
สุธิดากับเท็ดดี้แบร์ที่โถงบันได
ถึงจะไม่ค่อยมีเวลาว่าง แต่สาวคนนี้ก็ยังฝากลายเซ็นไว้กับผลงานการออกแบบบ้านเพื่อการรีโนเวตครั้งใหญ่ในราว 6-7 ปีที่แล้ว เวลานั้นวิชาสถาปัตยกรรมที่ร่ำเรียนมาได้ใช้ 100% และเธอตกแต่งบ้านแบบคอนเทมโพรารีเอาใจแม่ที่อยากคงความดั้งเดิมไว้ ผสมความต้องการตัวเองที่อยากได้ความทันสมัย จึงมาลงตัวโดยการเลือกใช้โทนสีอบอุ่น น้ำตาล และครีม มีไม้เป็นวัสดุสำคัญ ทั้งบานประตู เก้าอี้ โต๊ะ และพื้น
นอกจากลงมือออกแบบเองแล้ว สาวคนนี้ยังลงแรงในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน และควบคุมงานสร้างด้วยตนเอง เวลากว่า 2 ปีเต็มที่เนรมิตบ้านหลังนี้ ดูยาวนานจนเป็นมหากาพย์สำหรับเธอเลยทีเดียว
เธอปรับเปลี่ยนจากโรงจอดรถและสนามหญ้าหน้าบ้านให้กลายเป็นห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว และครัวฝรั่ง ตามความต้องการของทุกคนในบ้าน ที่โดดเด่นในห้องกินข้าวถ้าไม่นับโต๊ะกระจกตัวใหญ่แล้ว แชนเดอเลียร์เหนือศีรษะ นอกจากจะโชว์ความอ่อนหวานของเจ้าของบ้านแล้ว แสงไฟนวลที่เปล่งออกมายังเพิ่มความน่ากินให้กับอาหารอีกด้วย
เพื่อให้บ้านที่มีขนาดเล็กดูโปร่งกว้างขึ้น บ้านนี้จึงออกแบบโดยเน้นไปที่การใช้กระจกบานใสแทนกำแพงทึมทึบระหว่างห้อง เพื่อให้ดูเชื่อมต่อกัน เว้นที่ว่างตรงกลางระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องกินข้าวไว้ปลูกต้นไม้และรับแสงธรรมชาติอีกด้วย และที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกมุมของบ้าน คือ ตุ๊กตาขนปุยที่มีขนาดต่างๆ กันไป ตั้งแต่เล็กพอดีอุ้มกับขนาดใหญ่เท่าคนตัวจริงที่โอบแทบไม่มิด
ส่วนพื้นที่ข้างบ้านก็เป็นสวนครัวของแม่และพี่เลี้ยง มีผักแพว ตะไคร้ ใบกะเพรา พริก นอกจากจะกินเองแล้ว ยังเผื่อแผ่ให้คนในหมู่บ้านมาเก็บไปฟรีๆ ด้วย
ขณะที่บริเวณจอดรถถูกแปลงไปใช้งานตามความต้องการของคนในบ้าน ทุกคนในบ้านจึงต้องจัดระเบียบการจอดรถกันใหม่ เพื่อให้เพียงพอต่อรถยนต์ 5 คัน
ห้องครัวฝรั่ง-ห้องกินข้าว
“คุณพ่อจะเป็นคนจัดคิวว่าคันไหนต้องจอดตรงไหน เพราะว่าทุกคนในบ้านทำงานไม่ตรงกัน คุณแม่ พี่สาวสองคนออกแต่เช้า ส่วนพัฟออกช้ากว่านั้นแต่กลับดึกกว่า เลยต้องจอดให้ถูกที่เพื่อให้เข้าออกง่าย”
เนื่องจากเวลาการทำงานที่ไม่ตรงกันของแต่ละคน และไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ทำให้ “ครอบครัวพลาวงศ์” ไม่ได้เจอกันบ่อยนัก
“ทุกคนจะมีมุมเป็นของตัวเองค่ะ อย่างเวลาดูทีวีเราก็จะแยกกันดู เพราะชอบกันคนละอย่าง คุณพ่อดูรายการกีฬา คุณแม่ชอบดูซีรีส์เกาหลีซึ่งพี่สาวคนโตจะคอยกรองให้ก่อนว่าเรื่องไหนน่าสนใจ พี่คนกลางชอบเช่าดีวีดีหนังที่ร้านดู ส่วนพัฟดูทุกอย่างอะไรสนุกก็ดูหมด ห้องใครห้องมัน” ดีเจสาวกล่าวน้ำเสียงติดตลก
อาจจะเจอกันน้อยกว่าครอบครัวอื่นๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคที่ทำให้ความรักความผูกพันระหว่างกันถูกบั่นทอน เพราะทุกวันอาทิตย์ทุกคนจะพร้อมใจกันเคลียร์คิวให้ว่าง เพื่อให้เวลากับครอบครัวไปสรรหาอาหารจานอร่อยกิน
“แล้วก็ถ้าเป็นช่วงเทศกาลสำคัญๆ บ้านเราก็จะมีพิธีการทำร่วมกัน อย่างวันปีใหม่ วันพ่อ วันสงกรานต์ ลูกๆ ก็จะรดน้ำดำหัวคุณพ่อคุณแม่ที่ห้องนั่งเล่นนี่ล่ะ ส่วนวันเกิดของใครพวกเราทั้ง 5 คน ก็จะตื่นเช้ามาอวยพรวันเกิดกัน”
ยามว่างของสาวคนนี้ เธอมักจะฝังตัวอยู่บนเตียงนอนหนานุ่ม ดูทีวี อัพเดตเฟซบุ๊ก รวมถึงข่าวสารต่างๆ เพื่อใช้พูดคุยในรายการด้วยมือถือผ่านแอพพลิเคชันที่เข้าถึงหนังสือพิมพ์ออนไลน์ได้ทั่วโลก อันไหนที่สนใจเป็นพิเศษก็โหลดเก็บไว้อ่านซ้ำ ข่าวที่ติดอยู่ในลิสต์ต้นๆ ของดีเจสาวคนนี้ คือ ข่าวบันเทิง วิทยาการและเทคโนโลยี ซึ่งตรงกับไลฟ์สไตล์สาวกความล้ำสมัยแบบเธออยู่แล้ว
“งานประจำไม่ต้องใช้เอกสาร เดี๋ยวนี้พัฟจึงไม่ค่อยใช้คอมพิวเตอร์ อย่างออกแบบปกซีดีรวมเพลงพิเศษ ‘Chill Reflections’ พัฟก็ใช้มือถือแทน เรามีอินเทอร์เน็ตไวไฟที่เปิดไว้ใช้ได้ทั้งบ้าน อยากใช้เมื่อไหร่ที่ไหนก็ได้ตามสบาย”
มุมโปรดของสาวพัฟ
ห้องครัวฝรั่ง-ห้องกินข้าว
เป็นห้องสำคัญที่สาวๆ ในบ้านขอมาว่าอยากมี แต่ส่วนใหญ่แล้วพี่สาวคนกลางใช้งานคุ้มที่สุด ซึ่งพัฟกระซิบกับเราว่าพี่สาวคนนี้ทำขนมอร่อยทีเดียว ถัดมาโต๊ะกระจกฐานไม้ตัวใหญ่ นอกจากจะใช้เป็นที่กินข้าวร่วมกันแล้ว สมัยที่ยังเรียนปริญญาโท สาวคนนี้ก็ใช้เป็นที่ติวหนังสืออีกด้วย
เท็ดดี้แบร์ที่โถงบันได
คนพิเศษมอบให้ไว้เป็นของขวัญ และมันก็อยู่ในที่ที่เห็นได้เสมอเมื่อกลับหรือออกจากบ้าน
ห้องนอน-มุมแต่งตัว
เป็นมุมที่เจ้าตัวใช้มากที่สุด นอกจากนอนหลับแล้ว ในวันทำงานก็ใช้เวลาอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าในห้องสักพัก เลือกจนถูกใจที่สุด และที่ขาดไม่ได้ คือ จะต้องเปิดทีวีทุกครั้ง
ระเบียงหน้าบ้าน
ด้านหน้าเป็นที่จอดรถ 5 คัน และบริเวณพักผ่อนตรงนี้ใช้ยามต้องการชมนกชมไม้บ้าง
ห้องนั่งเล่น
เป็นห้องที่ใช้รับแขกไปในตัว เพราะเปิดประตูบ้านปุ๊บก็เจอปั๊บ จอทีวีเครื่องโตที่วางอยู่กลางห้องกับโซฟาตัวเป้งนุ่มน่านอน พ่อของสาวสวยคนนี้ใช้บ่อยในวันพักผ่อน เพลิดเพลินไปกับดีวีดีหนังและรายการกีฬา
มุมแต่งตัว
ห้องนั่งเล่น