สิงห์ เอสเตท กางแผนร่วมแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในเมือง

นางอรณีย์ พูลขวัญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและการพาณิชย์ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ากลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียล ของสิงห์ เอสเตท มีความตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก จึงได้ดำเนินตามมาตรการของภาครัฐในการดูแลประชาชนและชุมชนโดยรอบของอาคารในเครือทั้ง 4 แห่ง

โดยมีขั้นตอน คือ เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายของแต่ละอาคารจะใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน วัดค่าฝุ่น PM 2.5 โดยรอบอาคาร 4 จุด ในเวลา 07.00-08.00 น. ระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ แล้วนำค่าที่ได้มาเทียบกับดัชนีคุณภาพอากาศ หรือ Air Quality Index ถ้าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กอยู่ในระดับสีส้มขึ้นไป คือมีค่ามากกว่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทางทีมงานฝ่ายระบบอาคารจะดำเนินการฉีดน้ำละอองฝอยจากดาดฟ้าลงมายังพื้นที่บริเวณด้านหน้าอาคารที่กันไว้ เป็นเวลา 15 นาที เพื่อช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ให้กับประชาชนและชุมชนโดยรอบ

ทั้งนี้ วิกฤตฝุ่น PM2.5 ในประเทศไทยมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว และเป็นภัยต่อสุขภาพ โดยหากมีค่าความหนาแน่นเกินค่ามาตรฐานจะเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เพราะฝุ่นละอองเหล่านี้มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน จึงสามารถแพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และแทรกซึมเข้าไปในกระบวนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ได้ จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น ภูมิแพ้ หอบหืด และมะเร็งปอด

โดยสิงห์ เอสเตท ให้ความสำคัญในการทำงานกับหน่วยงานราชการและร่วมมือกับสำนักงานเขตจตุจักรอย่างใกล้ชิด ในการให้เจ้าของอาคารสูงในเขตพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธิน ถนนรัชดาภิเษก และถนนลาดพร้าว เป็นต้น ในการฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก

นอกจากมาตรการลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 แล้ว สิงห์ เอสเตท ยังให้ความสำคัญและดำเนินมาตรการป้องกันโควิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน ผู้เช่าอาคาร และลูกค้าทุกคน โดยกำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด ได้แก่ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของพนักงานและผู้มาติดต่อทุกคน เพื่อคัดกรองผู้ป่วย

พร้อมทั้งเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในทุกจุดที่มีการสัมผัส และติดตั้งจุดให้บริการเจลล้างมือ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ที่เข้ามาใช้บริการทุกคน