posttoday

อสังหาฯ หนึ่งในธุรกิจอนาคตแห่งยุคดิจิทัล

28 ธันวาคม 2563

คอลัมน์ Property Digest

โดย อนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ

กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(www.plus.co.th)

ปี 2563 โลกของเราเปลี่ยนไปเพียงชั่วข้ามคืนหลังจากที่มีการระบาดของโควิด-19 ผู้คนเกิดการปรับตัวสู่วิถีใหม่ ห้องนอนกลายเป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่นที่บ้านกลายเป็นห้อง VDO Conference

โดยหุ้นเทคโนโลยีกลายมาเป็นหุ้นกลุ่มนำตลาด ธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีกลายมาเป็นพระเอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ส่วนธุรกิจที่อยู่นอกอุตสาหกรรมเทคฯ ต่างรีบปรับตัวเพื่อความอยู่รอดบางรายถือจังหวะนี้เป็นการนับหนึ่งในการปรับตัวให้เท่าทันโลกที่หมุนด้วยเทคโนโลยี

และท่ามกลางมรสุมที่โหมกระหน่ำเศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ตลอดทั้งปี จึงเป็นเรื่องที่ไม่เกินความคาดหมายที่เราอาจได้เห็นบางธุรกิจต้องปิดฉากลง มีธุรกิจที่ฉายแววโดดเด่นท่ามกลางวิกฤต ซึ่งผู้ประกอบการหลายๆธุรกิจต้องกลับมาพิจารณาว่าธุรกิจของตนนั้นยังถือเป็นธุรกิจที่จะเติบโตไปได้ในโลกแห่งอนาคตหรือไม่

การเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เข้ากับโลกยุคดิจิทัลนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่สามารถยกเป็นต้นแบบแห่งการปรับตัวที่หลายๆ ธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้ได้

หากใครที่ติดตามข่าวสารด้านอสังหาริมทรัพย์คงจะคุ้นหูกับคำว่าPropTech ที่เริ่มถูกพูดถึงเมื่อ 2-3 ปีก่อน ซึ่งเป็นการนำเอาเทคโนโลยีมาผสมผสานเข้ากับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งโครงการที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงาน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้อยู่อาศัยที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันโดยเฉพาะการเชื่อมบริการต่างๆ เข้าสู่สมาร์ทโฟน

จากการปรับตัวดังกล่าวแม้ช่วงแรกจะมาจากการปรับตัวเพื่อไม่ให้ถูกดิสรัปจากเทคโนโลยี และผู้บริโภคเองก็ยังไม่เห็นถึงความจำเป็นมากนักอย่างไรก็ตามในปี 2563 ทันทีที่เกิดวิกฤตจากการระบาดของโควิด-19ทั่วโลกเกิดการล็อกดาวน์ อสังหาริมทรัพย์ที่เตรียมตัวในการเปิดสู่โลกแห่งเทคโนโลยีก็ได้นำ PropTech ที่ได้บุกเบิกไว้มาให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทั้งในด้านการขาย เช่น การเยี่ยมชมโครงการจากที่บ้านแบบ VDO Walk Through, Virtual Room Tour 360 ทำให้ลูกค้าที่ไม่สามารถเดินทางมาชมห้องในโครงการ ได้เห็นภาพจริงและได้ประสบการณ์เสมือนเดินทางเข้าไปดูด้วยตนเองในสถานที่จริง

อีกหนึ่งการปรับตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังได้รับความสนใจและกลายเป็นเทรนด์ในขณะนี้นั่นคือการจับเอา PropTech มาผสานเข้าสู่โครงการที่อยู่อาศัยเน้นสุขภาวะ (Wellness)

ซึ่งประเด็นนี้เราได้เห็นการเกิดความร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านการแพทย์ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพด้วยนวัตกรร เทคโนโลยีใหม่ๆ ทางการแพทย์มาเติมเต็มการอยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่ ตั้งแต่การจัดโปรแกรมการดูแลสุขภาพให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นบริการทางการแพทย์เชิงป้องกัน ให้คำแนะนำ และตรวจสุขภาพทางไกล ทั้งบริการเจาะเลือดถึงโครงการ และบริการ Medicine Delivery ส่งยาให้กับลูกบ้าน และยังสามารถใช้บริการ Virtual Hospital พูดคุยพบแพทย์ออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันได้อีกด้วย

นอกจากนี้ในส่วนของด้านการรักษาความปลอดภัย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้นำจุดเด่นของเทคโนโลยี AI และ IoT มาเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย เช่น กล้องวงจรปิดทั่วไปให้กลายเป็นกล้องวงจรปิดอัจฉริยะที่สามารถวิเคราะห์ และตรวจจับการเคลื่อนไหวของภาพหน้าจอด้วย AI ซึ่งสามารถวิเคราะห์ความผิดปกติเช่นเรื่องการบุกรุก

หากพบว่ามีความเสี่ยงอาจเกิดการลักลอบเข้าโครงการระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ดูแลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้สามารถป้องกันเหตุไม่คาดฝันได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในยุคโควิด-19 ระบาดเช่นนี้ผู้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น

ดังนั้นความปลอดภัยภายในบ้านที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นนี้จึงทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถูกจับตามองมากขึ้น แม้ว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะไม่ใช่ธุรกิจด้านการพัฒนาเทคโนโลยีโดยตรง

แต่การปรับตัวและปรับนำเทคโนโลยีมาใช้ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกตลอดเวลา ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเมื่อเกิดวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์สามารถประคองตัวฝ่ามรสุมไปสู่อนาคตได้

และท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกที่หมุนด้วยเทคโนโลยีนี้อสังหาริมทรัพย์จึงจะเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่จะสามารถก้าวเดินไปพร้อมๆกับโลกแห่งเทคโนโลยีได้อย่างไม่สะดุด