posttoday

จับตาอสังหาฯ รายใหญ่เปิดโครงการพร้อมอยู่ส่งท้ายปี

19 พฤศจิกายน 2563

คอลัมน์ Property Digest

โดย อนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ

กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(www.plus.co.th)

แม้ 10 เดือนที่ผ่านมาบรรยากาศตลาดอสังหาริมทรัพย์จะไม่คึกคักดังเช่นทุกปีแต่ไม่น่าเชื่อเลยครับ เมื่อได้เห็นผู้ประกอบการรายใหญ่เผยยอดโอนพบว่าสามารถทำยอดโอนเติบโต 100% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเรียกได้ว่าเติบโตเป็นประวัติการณ์กันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดีตัวเลขการโอนที่เติบโตแบบเกินความคาดหมายนี้ต้องยกเครดิตให้ผู้ประกอบการที่งัดกลเม็ดต่างๆ มาสู้วิกฤต ดึงเม็ดเงินจากกลุ่มผู้ที่มีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ให้สามารถตัดสินใจโอนที่อยู่อาศัยได้แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจซบเซา

สำหรับช่วงท้ายของปีนี้แวดวงอสังหาริมทรัพย์ก็มีเรื่องสร้างความประหลาดใจให้กับวงการอีกครั้ง ด้วยการเปิดขายโครงการพร้อมอยู่หลายโครงการพร้อมกันโดยมีการเปิดให้เข้าชมโครงการแนวราบบนทำเลศักยภาพ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อถือเป็นการสร้างสีสันให้ตลาดไม่เงียบเหงาในช่วงท้ายปีได้เป็นอย่างดี

จากสัญญาณการเปิดโครงการในช่วงท้ายปีนี้จึงสะท้อนได้ว่าผู้ประกอบการเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกและยังมีความมั่นใจในกำลังซื้อของ Real Demand อีกทั้งปกติไตรมาสสุดท้ายของทุกปีจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของตลาดอสังหาฯ

ถึงแม้ว่าไฮซีชั่นปีนี้จะเทียบไม่ได้กับช่วงปีก่อน แต่เชื่อว่าจะมีแรงกระเพื่อมเข้ามาสร้างความคึกคักให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้พอสมควร ส่วนโปรโมชั่นอสังหาริมทรัพย์ที่ค่ายใหญ่จัดเต็มกันในช่วงนี้หนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ คือ การมัดรวมโครงการที่มีอยู่เป็นคอลเล็คชั่นเปิดให้มาเข้าชมโครงการนั้น ถือว่าเป็นผลดีต่อผู้ซื้อให้มีตัวเลือกมากขึ้น

เนื่องจากการนำโครงการเดิมที่สร้างเสร็จแล้วมาเสนอขาย ทำให้ผู้ซื้อจะได้เลือกที่อยู่อาศัยในราคาต้นทุนเดิมที่ยังไม่ได้ขยับขึ้นเหมือนโครงการใหม่ๆ ที่ปกติราคาจะปรับขึ้นตามมูลค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้นทุกปีรวมทั้งบ้านที่อยู่ในโครงการเดิมส่วนใหญ่จะอยู่ทำเลที่ใกล้เมืองมากกว่าโครงการใหม่

นอกจากนี้การได้เลือกซื้อบ้านสร้างเสร็จก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่ผู้ซื้อจะได้เห็นบ้านและสภาพแวดล้อมจริงได้สัมผัสประสบการณ์จริงในการเข้าเลือกชมเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อที่เห็นภาพชัดกว่า

ทั้งนี้ในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยนั้นขอแนะนำว่าจะตัดสินใจจากโปรโมชั่นอย่างเดียวไม่ได้ ผู้ซื้อควรจะเลือกดูหลากหลายโครงการเปรียบเทียบกันในหลายๆด้าน ทั้งราคา คุณภาพของวัสดุและมาตรฐานการก่อสร้าง ชื่อเสียงของผู้พัฒนาโครงการและสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือเรื่องบริการหลังการขายโดยเฉพาะด้านความปลอดภัย

นอกจากนี้จะต้องคำนึงถึงด้านการเดินทางเข้าสู่โครงการว่ามีความสะดวก และความปลอดภัยหรือไม่ รวมถึงควรเข้าไปสัมผัสหรือเข้าชมส่วนกลางของแต่ละโครงการว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเรามากน้อยแค่ไหน มีพื้นที่สีเขียวให้ผู้อยู่อาศัยและมีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ได้มาตรฐานหรือไม่

รวมทั้งเรื่องการมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายครอบคลุมสำหรับทุกเพศทุกวัย ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่อยากให้ผู้บริโภคพิจารณาเช่นกัน เพราะบางครอบครัวมีทั้งเด็กและผู้สูงอายุ

การมีสิ่งอำนวยความสะดวกในบริเวณพื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลายเหมาะกับสมาชิกในครอบครัวเรา ก็จะช่วยให้มีกิจกรรมที่ทุกคนสามารถทำร่วมกันได้ เช่น มีแปลงผักสวนครัวในโครงการมีสนามเด็กเล่นที่เน้นเสริมพัฒนาการของเด็ก มีพื้นที่ Co-spaceที่สามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ทั้งในครอบครัวและทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนบ้านในโครงการเดียวกัน เป็นต้น

เพราะการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยนั้นหากคำนึงถึงเพียงแค่โปรโมชั่น ด้านราคาแต่ไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต หรือ คุณภาพโครงการไม่ได้มาตรฐานก็จะส่งผลเสียในระยะยาวทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดและมีผลต่อคุณภาพชีวิตและความสุขอย่างยั่งยืนได้ครับ