“ปลาทู อิสสระ” ฝ่าวิกฤตธุรกิจอสังหาฯปีนี้ ต้อง “Flexible” เท่านั้น
ชาญอิสสระ มอง "Big Learning” อสังหาริมทรัพย์ ในปีนี้ คือ ที่สุดแล้ว ทั้งวิกฤตโควิด และ พลังม็อบดิจิทัล ที่ต้องทำแผนป้องกันเสี่ยงธุรกิจแบบยืดหยุ่น
“ปลาทู-ดิฐวัฒน์ อิสสระ” บุตรชายคนที่สองของ “สงกรานต์-ศรีวรา อิสสระ” ตระกูลชาญอิสสระผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ทั้งโครงการที่พักอาศัยแนวราบ คอนโดมีเนียม อาคารสำนักงาน และ โรงแรมที่พัก โฟกัสกลุ่มเป้าหมายหลักระดับบน
ปัจจุบัน เขาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสร้างสรรค์สื่อและเทคโนโลยี สารสนเทศ บริษัทชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ พร้อมบอกเล่าภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มชาญอิสสระ ที่เผชิญความท้าทายจากทั้งวิกฤตโควิด-19 และ วิกฤต #แบนศรีพันวา
ปี63 บทเรียนใหญ่ของ “ชาญอิสสระ”
ดิฐวัฒน์ บอกว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ กลุ่มชาญอิสสระ ในปี 2563 นี้ได้รับผลกระทบไปในทิศทางเดียวกับตลาด ทั้งจากปัจจัยทางเศรษฐกิจชะลอตัวตั้งแต่ปลายปีก่อน และการแพร่ระบาดโควิด-19 นับตั้งแต้ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ทีมบริหารต้องติดตามทุกสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนแผนดำเนินงานได้ทันท่วงที และมีความยืดหยุ่น (Flexibel)
“เป็นปีที่ได้เรียนรู้เยอะ ไม่คิดว่าจะได้ทำอะไรก็ได้ทำในปีนี้ อย่างรุ่นคุณพ่อ (สงกรานต์ อิสสระ) ก็เจอกับวิกฤตต้มยำกุ้ง(ปี 2540) มาแล้ว พอมารุ่นพวกผมก็เป็นวิกฤตโควิด-19ทำให้ต้องมาเรียนรู้ธุรกิจใหม่แบบวันต่อวัน อย่างเช่น วันนี้โรงแรมจะต้องปิดทันทีแล้วทำอย่างไรบ้าง วันถัดมาเปิดโรงแรมได้แล้วจะต้องทำอะไรต่อไปอีก คือ ทุกวันนี้การทำแผนธุรกิจจะใช้แบบเดิมที่วางเอาไว้ไม่ได้แล้ว แต่ต้องทำใหม่ ต้องปรับให้ใช้ได้ตลอด” ดิฐวัฒน์ เล่า
ขณะเดียวกัน จากวิกฤตทางธุรกิจทั้งสองปัจจัย ยังผลักดันให้ กลุ่มชาญอิสสระ หันมาให้น้ำหนักกับการทำตลาดออนไลน์ ผ่านแพล็ตฟอร์มโซเชียลต่างๆ เพื่อให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี และที่สำคัญ คือ จะเป็นกลุ่มกำลังซื้อในอนาคต (Future Buyer) เช่นกัน และมองว่าจากกระแสแฮชแทค #แบนศรีพันวา ที่เกิดขึ้นใน โซเชียล แพล็ตฟอร์ม ช่วงที่ผ่านมา ไม่ส่งผลกระทบมากนัก ด้วยเป็นเทรนด์ที่มาไวไปไว และอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ มากกว่าจะขยายยาวออกไป
แนวราบราคา 10-20 ล้านบาท โต3 เท่าตัว
ขณะที่ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ ในไตรมาส4 ปีนี้ ดิฐวัฒน์ บอกว่ามีแนวโน้มยังไม่แข็งแรงนัก จากปัจจัยหลักๆผลกระทบโควิด-19 ที่ชะลอกำลังซื้อบางกลุ่มหายไป โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ เช่น กลุ่มเอเยนต์จากจีน ที่เคยเข้ามาซื้อ “บิ๊ก ล็อต” โครงการอสังหาฯในไทย ช่วง 3 ปีก่อนหน้านี้
ส่วนสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเยาวชนในขณะนี้ มองว่ามีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในเชิงบวก (Positive) หากมีการควบคุมจากทุกฝั่งที่ดี ซึ่งเห็นควรให้มีแนวทางแก้ไข (Solution) ออกมาด้วย ขณะที่ภาพรวมอสังหาฯอาจได้รับผลกระทบน้อยกว่าตลาดอื่นๆ ด้วยยังเป็นกลุ่มสินค้าที่มีความจำเป็นของมนุษย์
“ตลาดอสังหาริมทรัพย์ นับจากต้นปีที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มโครงการแนวราบระดับราคา 10-20 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 3 เท่าตัวเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนถึงกำลังซื้อในระดับบนที่ยังมีความต้องการอยู่ ทำให้ปีนี้ บ้านเดี่ยวขายได้ดีกว่า” ดิฐวัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับแนวทางธุรกิจกลุ่มชาญอิสสระ ในขณะนี้ ที่หันไปทำตลาด “บิ๊ก ล็อต” ในกลุ่มกำลังซื้อระดับบนที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในโครงการแนวราบ เป็นจำนวนมากขึ้น ทั้งเพื่ออยู่อาศัยส่วนตัว สำหรับครอบครัว และ เพื่อการลงทุนระยะยาว
ด้วยในขณะนี้ถือเป็นช่วงจังหวะที่ดีต่อการลงทุนในทรัพย์อสังหาฯ ที่ผู้พัฒนาโครงการฯ จะยอมปรับโครงสร้างราคาทรัพย์ลดลง เพื่อสร้างสภาพคล่องให้กับธุรกิจ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างปิดการขายโครงการบิ๊ก ล็อต คาดมีมูลค่าราว 200-300 ล้านบาท พร้อมให้ส่วนลดในแต่ละยูนิตขึ้นอยู่กับแต่ละข้อตกลงกับลูกค้า
โรงแรม เริ่มฟื้นแล้ว
ขณะที่กลุ่มธุรกิจโรงแรม “ศรีพันวา” และ “บาบา บีช” ในขณะนี้ มีแนวโน้มฟื้นตัว หลังจากธุรกิจโรงแรมต้องปิดให้บริการจากสถานกาารณ์โควิด-19 โดยแบรนด์ “บาบา บีช คลับ หัวหิน” มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 60-70% มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ กลุ่มครอบครัว ที่ต้องการสถานที่พักผ่อนที่มีจำนวนไม่แออัด และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
สำหรับโรงแรม ศรีพันวา ภูเก็ต มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 50-60% ส่วนหนึ่งได้รับผลดีจากแคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกัน” ของภาครัฐ โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ตุลาคม 2563 มีผู้มาใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันที่โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ตสะสม 2,800 คืน คิดเป็นมูลค่ารวม 34 ล้านบาท
ดิฐวัฒน์ กล่าว “ส่วนศรีพันวา ไห่หนาน ประเทศจีน ที่บริษัทเข้าไปรับบริหารให้นั้น ในขณะนี้อยู่ระหว่างชะลอการดำเนินการด้วยต้องปฏิบัติตามกฎหมายของจีนที่เปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง และ จากโควิด-19 ด้วย ซึ่งเลื่อนเปิดให้บริการออกไปก่อนจากเดิมวางแผนเปิดปลายปี2562”
ขณะที่ บาบา บีช คลับ นาใต้ จังหวัดพังงานั้น ได้กลับมาเปิดให้บริการ เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถประเมินได้ว่ามีอัตราเข้าพักจำนวนเท่าใด
ส่งแคมเปญใหญ่ รุกตลาดโค้งสุดท้ายของปี
สำหรับไตรมาส4 ปีนี้ บริษัทเน้นทำตลาดเชิงรุก เพื่อกระตุ้นยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในสต๊อก ทั้งบ้านและคอนโดฯ พร้อมอยู่ โดยจัดโปรโมชั่นส่วนลดที่คุ้มค่า จับกลุ่มเป้าหมายผู้ต้องการที่อยู่อาศัยที่แท้จริง ล่าสุดเปิดตัว ISSARA DAY Yes ทุกดีล ขน 9 โครงการคุณภาพทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
“กลยุทธ์การตลาดในโค้งสุดท้ายของปี เราเน้นระบายของในสต๊อกที่มีอยู่ พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ ซึ่งถือเป็นแคมเปญกระตุ้นการตลาดที่จะช่วยสร้างสีสันส่งท้ายปี ให้ลูกค้าได้มีสิทธิในการเลือกรับโปรโมชั่น ที่ต้องการ ไปพร้อมกับมอบประสบการณ์สุดลักชัวรี่ให้กับลูกค้าด้วย” ดิฐวัฒน์ กล่าว
โดย ดวงใจ จิตต์มงคล