ธนาพัฒน์ชี้ทำเลพระราม3ยังไร้คู่แข่ง

ธนาพัฒน์ฯยันตลาดอาคารพาณิชย์ให้เช่าย่านพระราม3 ยังไร้คู่แข่ง รับเปิดตัวครั้งแรกผลตอบรับดี  ซื้อลงทุนแล้วคุ้มค่า

นางปิยพร โยธาประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล็อปเมนท์  เปิดเผย ถึงภาพรวมตลาดให้เช่าอาคารพาณิชย์ในย่านพระราม 3 ว่า การแข่งขันยังไม่สูง เพราะส่วนใหญ่ยังเป็นอาคารพาณิชย์รูปแบบเก่า เมื่อบริษัทฯเข้าไปเช่าที่ดินจากวัดปริวาส เป็นระยะเวลา 30 ปี ตั้งแต่ปี 51 พัฒนาโครงการ “ธนาพัฒน์ ทรีซิกซ์ตี้ พระราม3-นราธิวาส” ในรูปแบบอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นสไตล์โมเดิร์น เช่าเซ้ง 28 ปี จำนวน 62 ยูนิต ขนาด 17 ตารางวาขึ้นไป ราคาขายเริ่มต้นที่ 3.9 ล้านบาท และได้ซื้อที่ดินบริเวณด้านหน้าวัด พื้นที่ 76 ตารางวา เป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น หน้ากว้าง 8X9 เมตร โดยตัวอาคารมีพื้นที่ 55 ตารางวา  จำนวน 1 ยูนิต ราคา 29 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการเกือบ 200 ล้านบาท

“ต้องยอมรับว่าครั้งแรกที่เปิดให้ลูกค้าเข้าเซ้ง มีผลตอบรับดีมาก แต่ในระยะหลังจะมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่เข้ามาดูสินค้า แต่พอทราบว่าเป็นการขายเซ้งก็จะไม่สนใจ เพราะไม่มีเงินทุน ในขณะที่ลูกค้าที่เป็นคนรุ่นเก่าและมีประสบการณ์กว่าจะรีบซื้อทันที เพราะอาคารพาณิชย์จะมีข้อดีกว่าทาวน์เฮาส์ คือมีความลึกถึง 16 เมตร เมื่อคำนวณแล้วถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน  และสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 15 ปี ส่วนระยะเวลาที่เหลือก็เหมือนอยู่ฟรี”นางปิยพรกล่าว

นางปิยพร กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีสินค้าเหลือขายประมาณ 18 ยูนิตเท่านั้น และโอนกรรมสิทธิ์เกือบหมดแล้ว ซึ่งลูกค้ามีหลากหลายธุรกิจ ส่วนใหญ่เป็นการซื้อเพื่อเป็นที่ตั้งออฟฟิศ แต่จะมีกลุ่มที่เซ้งเพื่อให้เช่าต่อมีประมาณไม่เกิน 10% อาทิ กลุ่มเกาหลี ที่นำเข้าวัตถุดิบด้านอาหารเข้ามาจำหน่าย

และเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปี53 นี้ บริษัทจึงได้นำยูนิตที่เหลือ มาจัดโปรโมชั่นมอบส่วนลดเหลือยูนิตละ 3.4 ล้านบาท และถ้าหากลูกค้าซื้อ 2 ยูนิตจะได้ส่วนลดอีกเหลือ 3.3 ล้านบาท/ยูนิต ตั้งแต่วันนี้จนถึงปลายปี 53  โดยสามารถกู้สินเชื่อรายย่อยกับธนาคารนครหลวงไทย จำกัด(มหาชน) ได้ 70%

“ที่ผ่านมาเราไม่ได้มีการปรับราคาขายขึ้นแต่อย่างใด และราคาเช่ายังถูกว่าอาคารพาณิชย์ในย่านเดียวกันเช่าในราคาตารางเมตรละ 2-3 หมื่น/ยูนิต ในขณะที่โครงการของเราให้เช่าในราคาตารางเมตรละ 1.5-2 หมื่นบาท/ยูนิต อีกทั้งรูปแบบอาคารก็ทันสมัยกว่า เพราะมีการออกแบบให้แตกต่างจากอาคารพาณิชย์ทั่วไป และแต่ละยูนิตก็มีหน้าตาที่แตกต่างด้วยเช่นกัน โดยเน้นพื้นที่ใช้สอยอย่างสูงสุด หากใครซื้อในช่วงนี้ถือว่าคุ้มค่าในการลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะการเซ้งจะถูกกว่าการซื้อขาดถึงครึ่งหนึ่ง และลูกค้ายังสามารถนำเงินไปต่อยอดธุรกิจได้อีก”นางปิยพรกล่าว