posttoday

หั่นค่าโอน-จำนอง เหลือ 0.01% อุ้มผู้มีรายได้น้อยอยากมีบ้าน

07 พฤษภาคม 2562

ครม.คลอดมาตรการลดภาระค่าธรรมเนียมโอน-จำนองบ้าน กรณีซื้อขายไม่เกินหลังละ1 ล้านบาท หนุนผู้มีรายได้น้อยมีบ้านของตัวเอง

ครม.คลอดมาตรการลดภาระค่าธรรมเนียมโอน-จำนองบ้าน กรณีซื้อขายไม่เกินหลังละ1 ล้านบาท หนุนผู้มีรายได้น้อยมีบ้านของตัวเอง

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (7 พ.ค.) มีมติเห็นชอบและอนุมัติมาตรการลดภาระค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมกรณีอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ที่มีราคาซื้อขายไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อหน่วย เพื่อสนับสนุนประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

ทั้งนี้จะลดค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนสิทธิ์และนิติกรรม ในการทำธุรกรรมการซื้อที่ดินและอาคารที่อยู่อาศัย โดยให้ลดการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนจากเดิม 2% ของราคาประเมินทุนทรัพย์เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดจากเดิม 1% ของมูลค่าที่จำนอง เหลือ 0.01% หากราคาซื้อชายเกินกว่า 1 ล้านบาท จะไม่ได้รับสิทธิการลดค่าธรรมเนียมดังกล่าวโดยมาตรการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 ปี มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2563

อย่างไรก็ตามคาดจะมีครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยและปานกลางสามารถเข้าถึงกรรมสิทธิในที่อยู่อาศัยประมาณ 58,340 ครัวเรือน คิดเป็นจำนวน 175,020 ราย โดยรัฐต้องใช้งบประมาณดำเนินโครงการดังกล่าวประมาณ 1,700 ล้านบาท แต่จะช่วยสร้างประโยชน์สาธารณะและความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลดีในแต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

"การลดภาระ เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ให้สามารถตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยได้เร็วขึ้น และสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางที่ยังไม่สามารถเข้าถึงกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในระดับราคาที่ไม่สูงนักได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน จะช่วยผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ลดอุปทานในตลาดอสังหาริมทรัพย์สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางในระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท เนื่องจากยังมีอุปทานคงเหลือในตลาดอยู่สูง โดยลูกค้ายังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยและมีความสามารถรับภาระในการผ่อนค่างวดได้ แต่ไม่สามารถเข้าถึงกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีเงินทุนหมุนเวียนในการลงทุนอย่างต่อเนื่องก่อให้เกิดการสร้างที่อยู่อาศัยใหม่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการสนับสนุนโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยของรัฐ(โครงการบ้านล้านหลัง)"นายณัฐพร กล่าว