ฉากกั้นห้อง ใครว่าไม่สำคัญ

เรื่อง - อ.ชลธี โพธิ์สุ สถาบันโหราศาสตร์และนักพยากรณ์แห่งประเทศไทย ภาพ - pixabay.com

สวัสดีผู้สนใจใคร่รู้เรื่องฮวงจุ้ยครับ และขอขอบคุณทุกท่านผู้มีอุปการคุณที่ติดตามอ่านหนังสือพิมพ์คุณภาพสำหรับนักธุรกิจที่ชื่อว่า “โพสต์ทูเดย์” ที่ใครๆ ต้องอ่านครับ

วันนี้เราจะมาคุยเรื่องใกล้ตัวเกี่ยวกับฮวงจุ้ยการวางโต๊ะรับประทานอาหารและห้องรับแขก ที่เคยเห็นและมีประสบการณ์ในการออกภาคสนาม โดยจะแยกให้เห็นลักษณะดีและร้ายของบ้าน 2 หลัง

บ้านหลังที่ดีตั้งถูกหลัก มิตรสหายดีเพื่อนดี ธุรกิจการค้าดี ติดต่ออะไรก็ดูดีไปหมด แต่บ้านอีกหลังกลับกลายเป็นคนละเรื่อง เพื่อนเยอะญาติเยอะแทนที่จะดี กลับมีแต่นำปัญหามาสู่บ้าน การค้าก็ขาดทุนบ่อยๆ จึงเห็นข้อแตกต่างในการวางผิดที่แล้วบ้านมีแต่ปัญหา มาทำความเข้าใจเรื่องห้องรับแขกก่อนนะครับ

ห้องรับแขก เปรียบได้กับหน้าตาเจ้าของบ้าน คนไปมาหาสู่มาเยี่ยมบ้าน ถ้าเราจัดห้องรับแขกดี สวย สมฐานะให้เกียรติผู้มาเยือน เราก็ได้ใจผู้มาเยือน ห้องรับแขกเสมือนที่นั่งเจรจาการค้าไปในตัว เงินทองจะเข้า งานจะสำเร็จก็ตรงจุดเริ่มต้นนี้แหละครับ เขาประทับใจเจ้าบ้าน มีหรือจะไม่ตกลงในการทำงานและการค้ากับเรา ขณะที่โต๊ะกินข้าวก็สำคัญมาก เพราะเป็นแหล่งรับทรัพย์ รับความอุดมสมบูรณ์ มีอะไรดีๆ ก็มากินที่โต๊ะอาหารนี่แหละ จะอร่อย ดูดี กินดีก็ส่วนนี้

แล้วมันมีส่วนสำคัญหรือเกี่ยวพันกับที่รับแขกอย่างไร

มาเริ่มบ้านหลังที่ดีเลิศ ตั้งถูก บ้านหลังแรกเขาตั้งแบบนี้ครับ ห้องรับแขกดีสวยงามไม่มีที่ติ ตรงตามหลักฮวงจุ้ยเป๊ะ ความสะอาดสะอ้านที่รับแขกบอกได้เลยว่าใครได้มาเยือนมานั่งแล้วอยากนั่งนานๆ แต่บอกได้เลยว่าอุปกรณ์โต๊ะต่างๆ ไม่แสดงถึงราคาแพงเลิศอะไรเลย แต่เน้นความเป็นระเบียบและโทนสีเข้ากับสถานที่ตรงนั้นมาก และห้องรับประทานอาหารก็แยกห่างโซนห้องรับแขก จัดให้มุมเป็นสัดส่วน โดยมีฉากกั้นไม่ให้มองเห็นโต๊ะกับข้าวเลย ถือว่าบ้านหลังนี้จัดสัดส่วน มุมแยกชัดเจนถูกหลักฮวงจุ้ย

ขณะที่บ้านหลังที่ 2 โซนห้องรับแขกจัดถูกมุมถูกทิศไม่ผิดองศาเลย ความสะอาดก็ไม่ได้ด้อยกว่าบ้านหลังแรก โซนที่ตั้งโต๊ะอาหารก็มุมดี ทิศองศาดี ไม่ผิดตามทิศของฮวงจุ้ยอะไรเลย แต่ทำไมสิ่งที่เกิดขึ้นกับบ้านทั้งสองหลังจึงแตกต่างกันมากเลย

ตามผมมาครับเดี๋ยวจะรู้ตอนนี้แหละว่า ปัญหามันนิดเดียว เหมือนเส้นผมบังภูเขาเรานี่เอง บ้านใครเป็นแบบนี้รู้แล้วสามารถนำไปปรับใช้ได้ครับ

สิ่งที่ผมเห็นความแตกต่างของสองบ้านคือ บ้านหลังเเรกจะมีฉากกั้นระหว่างโซนห้องรับแขกกับโซนโต๊ะรับประทานอาหาร แต่บ้านหลังที่สองไม่มีฉากกั้นครับ แค่นี้เอง

ท่านคงสงสัยแน่ๆ ว่าแค่ฉากกั้นมันมีอิทธิพลขนาดนั้นเลยหรือ ถ้าคิดแบบนี้ผมก็ตอบท่านว่า มีสิครับ เคล็ดลับอยู่ตรงนี้เลย มันเกี่ยวกันแบบนี้ครับ

โซนรับแขกอย่างที่บอก เป็นที่พูดคุยเรื่องธุรกิจ คุยเรื่องรายได้ เงินๆ ทองๆ ผลประโยชน์แลกเปลี่ยน ส่วนโซนโต๊ะรับประทานอาหารเปรียบเสมือนท้องพระคลังที่อุดมสมบูรณ์ เป็นเสมือนที่เก็บความลับเสบียงคลัง อย่าให้ศัตรูรู้ ถ้ารู้ค่ายทัพโดนโจมตีแน่ เปรียบให้เห็นว่า เมื่อคนมาเจรจาต่อรองเรื่องผลประโยชน์เห็นและรู้ความลับเราแล้ว การต่อรองท่านคิดว่าจะได้เปรียบไหม มีแต่จะโดนเอาเปรียบร่ำไป

และการที่มีคนมาเยี่ยมเยี่ยนเรา เห็นท้องพระคลังเรา ถึงเป็นญาติพี่น้องเพื่อนฝูง ถ้ามาถึงนั่งห้องรับแขกแล้วมองเห็นโซนอุดมสมบูรณ์ดั่งคลังสมบัติเรา มีหรือเขาจะไม่ยากได้ของเรา

ที่พูดแบบนี้ไมใช่ว่าเขาจะขโมยของ ขโมยเงิน ขโมยอาหารเรานะครับ แต่หลักฮวงจุ้ยถือว่า เงินจะออก เงินทองที่หามาได้ก็ต้องไปหมด มีแต่คนอื่นมาเบียดเบียนเอาเท่านั้นเอง

เห็นไหมครับว่าแค่ฉากกั้นตัวเดียว มันมีผลกับฮวงจุ้ยมากขนาดไหน หวังว่าท่านจะพอเข้าใจเรื่องเล็กๆ แต่บางครั้งก็เป็นเรื่องใหญ่มหาศาลนะครับพบกันอีกทีในฉบับหน้านะ