posttoday

‘ซิซซา’ผนึกทุนจีน รุกอสังหาปล่อยเช่า

13 พฤศจิกายน 2561

อสังหาริมทรัพย์ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนเนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหลายๆ ประเภท

โดย...อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

อสังหาริมทรัพย์ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนเนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหลายๆ ประเภท ขณะที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า รวมทั้งกำไรที่ได้จากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าที่ถือครองระยะยาว

อรรถนพ พันธ์กำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 15 ปี พัฒนาโครงการในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช มากกว่า 10 โครงการ มูลค่ารวมราว 4,000-5,000 ล้านบาท

สำหรับแผนงานนับจากนี้ จะมุ่งพัฒนาอสังหาฯ เพื่อการลงทุนรูปแบบใหม่ Investment Property (IP) ซึ่งเป็นการลงทุนอย่างเดียวไม่มีการผสมกันของอสังหาฯ เพื่อที่อยู่อาศัย ขายให้เฉพาะกลุ่มผู้สนใจลงทุนเท่านั้น มีทีมงานมืออาชีพระดับโลกมาบริหารงานให้เกิดค่าเช่ากับนักลงทุนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย รูปแบบของ IP จะมีผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย ได้แก่ นักลงทุนหรือผู้ซื้อ ผู้บริหารมืออาชีพ และผู้พัฒนาโครงการ

ทั้งนี้ โครงการแรกที่บริษัทได้พัฒนาในรูปแบบ IP คือ โครงการวินแดม ในหาน บีช ภูเก็ต มูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท ซึ่งมี บริษัท ซิติก กรุ๊ป (CITIC Group) จากประเทศจีนเป็นพันธมิตรผู้ดำเนินการก่อสร้างร่วมทั้งปล่อยสินเชื่อโครงการบนพื้นที่กว่า 11 ไร่ บริเวณหาดในหาน โดยพัฒนาในรูปแบบโฮเทลแอนด์รีสอร์ทเพื่อการลงทุนสำหรับคนไทยและต่างชาติ มีจำนวน 12 ตึก รวม 353 ยูนิต ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 40-60 ตารางเมตร (ตร.ม.) ขึ้นไป ขายราคาเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยที่ราว 1.62 แสนบาท/ตร.ม. ปัจจุบันเหลือยูนิตเหลือขายเพียง 40 ยูนิต โดยได้รับการตอบรับที่ดีทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ เช่น จีน ยุโรป โดยสัดส่วนของลูกค้าต่างชาติเต็มแล้ว 49% ทั้งนี้เตรียมเปิดขายยูนิตที่เหลือในวันที่ 25 พ.ย.นี้

‘ซิซซา’ผนึกทุนจีน รุกอสังหาปล่อยเช่า

สำหรับโครงการดังกล่าวได้มีการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจกับเครือโรงแรม 5 ดาวระดับโลกอย่างแบรนด์วินแดม (WYNDHAM) จากสหรัฐ ที่มีโรงแรมในเครือประมาณ 8,000 แห่งเข้ามาบริหาร ทั้งนี้ได้มีการการันตีผลตอบแทนการลงทุนสูงถึง 6% ใน 2 ปีแรก และปีที่ 3-15 เป็นการจ่ายปันผลตามผลประกอบการจากวินแดมโดยตรง ซึ่งสัดส่วนรายได้ค่าเช่าหลังจากหักค่าใช้จ่ายนักลงทุนจะได้รับไป 100%

นอกจากนี้ บริษัทมีความเชื่อมั่นว่านักลงทุนจะได้ผลตอบแทนรวมเฉลี่ยมากกว่า 10% ต่อปี โดยที่นักลงทุนมีสิทธิในการเป็นเจ้าของและถือโฉนดยูนิตที่ลงทุน เพียงแต่ต้องอยู่ภายใต้สัญญาการบริหารจากทางวินแดม ซึ่งจะได้สิทธิเป็นผู้บริหารจัดการอสังหาฯ ในลักษณะโรงแรมนี้ทั้งหมดเพียงผู้เดียว

นอกจากนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในการลงทุนเป็นประจำทุกไตรมาสแล้ว ยังให้สิทธินักลงทุนเข้าพักในโรงแรมฟรี 30 วัน/ปี อีกด้วย ทั้งนี้โครงการจะเปิดให้บริการในเดือน มี.ค. 2562 และจะทยอยโอนตั้งแต่เดือน ก.ย. 2562 และส่วนอัตราค่าพักเฉลี่ย 3,500 บาท/วัน

อรรถนพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของแผนธุรกิจปี 2562 บริษัทมีแผนพัฒนา 2-3 โครงการ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท โดยมองว่าอสังหาฯ เพื่อการลงทุนที่น่าสนใจ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า คืออาคารสำนักงานให้เช่า โดยบริษัทมีแผนพัฒนาในพื้นที่กรุงเทพฯ เน้นเกรดบีบวก นอกจากนี้ยังมองพื้นที่พัทยาและโครงการระเบียงภาคเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี) ด้วย รวมทั้งบ้านพักผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองซึ่งต้องร่วมกับพันธมิตรที่เป็นโรงพยาบาลเพื่อให้บริการจัดการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา

ขณะที่ในช่วงปลายปีนี้บริษัทมีแผนลงทุนที่ภูเก็ตอีก 1 โครงการชื่อวินแดมฉลอง พัฒนาในรูปแบบพูลวิลล่า บนพื้นที่ 24 ไร่ มูลค่าโครงการเกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการเปิดตัวพร้อมขายในวันที่ 25 พ.ย.นี้

ด้านภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในปีหน้านั้น มองว่าตลาดเพื่อการอยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ยังคงมีการแข่งขันสูงทั้งด้านทำเลและแคมเปญที่ออกมากระตุ้น ซึ่งเป็นโอกาสของคนซื้ออสังหาฯ ที่มีทางเลือกมากขึ้น ขณะที่ตลาดอสังหาฯ การท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต เป็นตลาดที่ยังคงมีการเติบโตที่ดีแม้ตลาดจีนจะชะลอตัว แต่จะได้ลูกค้ากลุ่มรัสเซียกลับมาจากค่าเงินที่แข็งขึ้น โดยพบว่ารายได้จากการท่องเที่ยวมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2559 อยู่ที่กว่า 3.77 แสนล้านบาท ส่วนโรงแรมภูเก็ตมีการเปิดตัวใหม่ในปี 2559 ที่ 365 ยูนิต

อย่างไรก็ดี รูปแบบการลงทุนแบบ IP เป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย ทำให้การแข่งขันยังน้อย ทั้งนี้ดีเวลอปเปอร์ต้องทำความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมายหรือนักลงทุน ขณะเดียวกันมองว่าอสังหาฯ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีคือมิกซ์ยูส อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล เป็นต้น ส่วนโรงแรมจะเติบโตดีในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยว

สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 400-500 ล้านบาท ส่วนในปี 2562 ตั้งเป้ารายได้กว่า 1,000 ล้านบาท จากนั้นจะมีกำไรโตขึ้น 10-15% ต่อปี