posttoday

ธนาแลนด์ชิงเค้กเพิ่มพอร์ตแนวราบ

23 ตุลาคม 2561

โดย...อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

โดย...อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

ตลาดที่อยู่อาศัยชานเมืองโดยเฉพาะในโซนฝั่งธนบุรีในปัจจุบัน เริ่มเห็นบิ๊กเนมในตลาดหันมาจับจองทำเล เพื่อพัฒนาโครงการมากขึ้น อย่างเช่น ย่านจรัญสนิทวงศ์-ปิ่นเกล้า ซึ่งมีโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง- บางแค ที่จะเปิดให้บริการในปี 2562 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมามีการซัพพลายคอนโดเข้าสู่ย่านจรัญสนิทวงศ์ปิ่นเกล้า ราว 5,000 ยูนิต ปัจจุบันมีหน่วยเหลือขายราว 40% โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 9.7-9.8 หมื่นบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) ขณะที่ราคาที่ดินปรับตัวขึ้นสูงต่อเนื่องโดยปัจจุบันราคาที่ดินอยู่ที่ราว 2 แสนปลาย-3 แสนบาท/ตารางวา

โกวิทย์ สุวาณิชย์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาแลนด์ เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจมากกว่า 40 ปี มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและสูงประมาณ 10 โครงการภายใต้แบรนด์ "ธนา" ในหลายทำเลของกรุงเทพฯ ได้แก่ ย่านลาดพร้าว บางเขน เอกมัย และสามเสน เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่องปีละ ไม่ต่ำกว่า 10% อีกทั้งบริษัทมีแผนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ใน 3-5 ปี บริษัทจึงได้กำหนดกลยุทธ์และแผนงานต่อจากนี้ในเชิงรุกมากขึ้น

สำหรับแผนงานในปี 2562 เนื่องจาก ธุรกิจอสังหาฯ มีการแข่งขันที่สูง ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทในตลาดหลักทรัพย์มีการพัฒนาโครงการทุกทำเลและทุกระดับราคา โดยเฉพาะคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า ดังนั้น บริษัทจึงได้หันมาเพิ่มสัดส่วนแนวราบประมาณ 40% ของ รายได้ทั้งหมด ซึ่งจะมีการรุกเปิดตลาดในทำเลใหม่ๆ เช่น ย่านสาธุประดิษฐ์ ถนนราชพฤกษ์ และถนนลาดพร้าว เป็นต้น เนื่องจากย่านปิ่นเกล้าแม้บริษัทจะยังมีแลนด์แบงก์อีก 1 ไร่ แต่ด้วยซัพพลายมีมากฉะนั้นจะยังไม่พัฒนาในระยะเวลาอันใกล้นี้

ในส่วนของโครงการใหม่เตรียมเปิดอย่างน้อย 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท ประกอบด้วย ลักซ์ชัวรี่ ทาวน์โฮม 4 ชั้น มูลค่า 700 ล้านบาท พื้นที่ 5 ไร่ ทำเลสาธุประดิษฐ์ จำนวน 50 กว่ายูนิต ราคาขาย 10 ล้านบาทขึ้นไป และโครงการคอนโดโลว์ไรส์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเลือกทำเลคือ อารีย์และลาดพร้าว มูลค่า 300 ล้านบาท จำนวน 70 ยูนิต ราคาขายระดับกว่า 1 แสนบาท/ตร.ม.

นอกจากนี้ บริษัทได้ตั้งงบซื้อที่ดินเพิ่มราว 300-500 ล้านบาท รวมทั้งงบการตลาดราว 1.5-2% ของยอดขายหรือราว 20 ล้านบาท เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคให้กว้างขึ้น

ที่ผ่านมาบริษัทมีการลงทุนทั้ง อสังหาฯ เพื่อการขายและเพื่อเช่า โดยสัดส่วนอสังหาฯ เพื่อขายมากกว่า 90% ขณะที่เพื่อเช่ามีไม่ถึง 10% ทั้งนี้การหันมารุกตลาดแนวราบนั้นก็เพื่อให้สามารถปิดการขายและมีรอบหมุนทางบัญชีเร็วขึ้น นอกจากนี้ทำเลที่ได้ไปลงทุนนั้นเป็นพื้นที่มีกำลังซื้อและเป็นตลาดเรียลดีมานด์มีความต้องการอยู่มาก โดยบริษัทจะเน้นทำโครงการที่จำนวนยูนิตไม่มากและอยู่ในระดับราคาตลาดกลาง-กลางบนเป็นหลัก

อย่างไรก็ดี บริษัทเตรียมจัดงาน THANK YOU PARTY ในวันที่ 3 พ.ย.นี้สำหรับโครงการ ธนา แอสโทเรีย ปิ่นเกล้า ขณะนี้มียอดขายกว่า 80% หรือกว่า 1,200 ล้านบาท สำหรับปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 500 ล้านบาท รับรู้รายได้ราว 1,000 ล้านบาท