posttoday

ที่อยู่อาศัยผู้สูงวัยคึก รายใหญ่เปิดศึกชิงแชร์

03 ตุลาคม 2561

จำนวนประชากรผู้สูงอายุไทยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมีสัดส่วน 20% ซึ่งมากกว่าประชากรเด็ก

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

จากตัวเลขประชากรผู้สูงอายุทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปี 2561 จำนวนประชากรผู้สูงอายุไทยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมีสัดส่วน 20% ซึ่งมากกว่าประชากรเด็ก จึงทำให้เห็นถึงรูปแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับกับกลุ่มดังกล่าวนั้นขยายตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

จอห์น ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ โฮม เฮลท์ แคร์ ในเครือธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับความต้องการของผู้สูงอายุมีถึง 1 ใน 5 ของประชากรคนไทย แต่โครงการที่พัฒนาเพื่อจับกลุ่มลูกค้าดังกล่าวนั้นยังมีไม่ถึง ซึ่งตลาดกลุ่มดังกล่าวจะใหญ่มากขึ้น คาดว่าภายในระยะเวลา 5-10 ปี จะมีสัดส่วน 20% จากปัจจุบันสัดส่วนการพัฒนาที่อยู่อาศัยกลุ่มดังกล่าว ยังมีไม่ถึง 10%

ทั้งนี้ บริษัทได้ซื้อโครงการที่ก่อสร้างค้างตั้งแต่ปี 2535 จากบริษัท ซุปเปอร์ พี แอนด์ เอส ตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ในราคา 250 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ ประชาอุทิศ มูลค่าโครงการประมาณ 849 ล้านบาท เพื่อให้เป็นคอมมูนิตี้ที่พักอาศัยของคนรักสุขภาพที่ผนวกเข้ากับระบบการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันแบบบูรณาการในรูปแบบ Active Wellness Society เป็นการนำแพทย์แผนปัจจุบันมาผสมผสานกับภูมิปัญญาและเทคโนโลยี เพื่อดูแลสุขภาพในระยะยาว รองรับกลุ่มคนทำงานไปจนถึงกลุ่มวัยเกษียณ

โครงการตั้งอยู่บนถนนประชาอุทิศ 60/1 ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) สถานีประชาอุทิศ และสถานีรถไฟฟ้าบางปะกอก สามารถเดินทางเข้าออกได้ทั้งถนนสุขสวัสดิ์ ถนนพระราม 2 และถนนพุทธบูชา ภายในโครงการด้วยคอนโดมิเนียม 11 ชั้น จำนวน 2 อาคาร อาคารละ 206 ยูนิต รวม 412 ยูนิต โดยมี 2 ขนาดห้อง คือ 32 ตารางเมตรและ 64 ตารางเมตร ราคา 2-4 ล้านบาท ซึ่งจะก่อสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้ในเดือน มี.ค. 2562 ตั้งอยู่บนเนื้อที่รวม 8 ไร่ โดยนำมาพัฒนาในเฟสแรก 4 ไร่ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าการขายไว้ 50% ภายในช่วง 5 เดือนแรกหลังจากเปิดขายโครงการ 12 ต.ค.นี้ โครงการดังกล่าวออกแบบภายใต้แนวคิดยูนิเวอร์ซัล ดีไซน์ ภายในโครงการยังมีศูนย์สุขภาพไว้บริการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อให้บริการทั้งลูกบ้านในโครงการและบุคคลภายนอก ก่อสร้างเป็นอาคารสูง 8 ชั้น นอกจากนี้ยังมีแผนจะก่อสร้างโรงพยาบาลธนบุรีบูรณา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่เน้นการฟื้นฟูสุขภาพ ใช้งบลงทุนราว 200 ล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทยังอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ บริเวณพหลโยธิน รังสิต คอนโดมิเนียมเพื่อจับกลุ่มผู้ซื้อสูงอายุ จำนวน 5 อาคาร 494 ยูนิต โดยมียอดขายแล้ว 50% ขณะเดียวกันบริษัทยังมองหาโอกาสในการพัฒนาโครงการรูปแบบดังกล่าวในทำเลอื่นที่มีศักยภาพ

ที่อยู่อาศัยผู้สูงวัยคึก รายใหญ่เปิดศึกชิงแชร์

จักรพงศ์ ธรรมวิเศษศรี ประธานกรรมการ บริษัท ควินท์ เรล์ม ผู้พัฒนาโครงการควินทิลเลียนเบิร์ก สมาร์ทโฮมสำหรับผู้สูงอายุ จ.ราชบุรี กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการควินทิลเลียนเบิร์กขึ้นเพื่อสร้างเมืองให้คนเกษียณอายุ โครงการดังกล่าวมาจากการหาความต้องการของกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุชาวยุโรป ที่พบว่า ประเทศไทยสามารถสร้างโครงการเพื่อผู้สูงอายุดังกล่าวขึ้นมา กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อมาอยู่อาศัยในโครงการนี้เดือนละ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1 แสนบาท รวมค่าอยู่อาศัยและค่าอาหาร จึงเริ่มวางแนวคิดสมาร์ทซิตี้สำหรับผู้สูงอายุ บนที่ดินกว่า 3,000 ไร่ ใน จ.ราชบุรี

สำหรับแนวทางการพัฒนานั้นจะแบ่งออกเป็น 10 เฟส มูลค่าลงทุนกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท โดยจะก่อสร้างเป็นหมู่บ้าน เบื้องต้นในเฟสแรกจะก่อสร้างประมาณ 950 ยูนิต ใช้เวลาประมาณ 6-7 ปี จึงจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ โดยอาศัยความร่วมมือกับ บริษัท ไชน่า เรียลเวย์ คอนสตรัคชั่น คอร์ปอเรชั่น ที่ได้เซ็นสัญญาเพื่อพัฒนาโครงการร่วมกันตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเฟสแรกจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 4 ปี 2561

สุธี ลิมปนชัยพรกุล ประธานกรรมการ บริษัท นายณ์ เอสเตท กล่าวว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อจับกลุ่มผู้สูงอายุมีมากขึ้น ที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท แอล.พี.เอ็น. ชีวาทัย และ ช.การช่าง พัฒนาโครงการกมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง จ.ภูเก็ต บนหาดกมลา เนื้อที่ 50 ไร่ ก่อสร้างเป็นคอนโดมิเนียม 200 ยูนิต และวิลล่า 30 ยูนิต จะเริ่มก่อสร้างช่วงไตรมาส 2 ปี 2562

วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า บริษัทศึกษาการพัฒนาที่อยู่อาศัยในประเทศญี่ปุ่นมาเป็นแนวทางการพัฒนาคอนโดกลางเมืองในกรุงเทพฯ เพื่อผู้สูงอายุ เนื่องจากพิจารณาแล้วพบว่าผู้สูงอายุรุ่นใหม่ในอนาคตอาจไม่ต้องการอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุด้วยกันหรืออยู่อาศัยกับลูกหลาน บริษัทจึงมีแนวคิดจะเริ่มโครงการดังกล่าวได้ภายใน 2 ปีข้างหน้า

ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการอสังหาฯ อย่างแสนสิริ ได้วางแผนเพื่อจะพัฒนาโครงการเพื่อจับกลุ่มผู้สูงอายุเช่นเดียวกัน จะเห็นได้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยเจาะกลุ่มผู้สูงอายุเป็นที่น่าจับตามอง เพราะมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเจาะตลาดกลุ่มนี้จะต้องเน้นบริการทั้งการแพทย์และหลังการขายที่ดี