posttoday

เสนาฯรุกครึ่งปีหลัง เจาะกำลังซื้อต่างชาติ

29 สิงหาคม 2561

ปัจจุบันตลาดที่อยู่อาศัยในไทย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมต้องพึ่งกำลังซื้อจากกลุ่มลูกค้าชาวจีนและฮ่องกง

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันตลาดที่อยู่อาศัยในไทย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมต้องพึ่งกำลังซื้อจากกลุ่มลูกค้าชาวจีนและฮ่องกง เป็นหลักมากขึ้นในสัดส่วนโควตาที่ต่างชาติสามารถซื้อได้ไม่เกิน 49% ของเนื้อที่ทั้งหมดของอาคารชุดในโครงการนั้นๆ

เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนนำโครงการรูปแบบคอนโดมิเนียมของบริษัทไปโรดโชว์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในฮ่องกง และจีน เนื่องจากเป็นประเทศเป้าหมายหลักที่กลุ่มทุนที่มี กำลังซื้อสูงและมองโอกาสซื้อคอนโดในเมืองไทย โดยที่ยังไม่ได้มองถึงการร่วมทุนกับกลุ่มทุนจีน เนื่องจากปัจจุบันมีการร่วมทุนกับกลุ่มทุนญี่ปุ่นคือ บริษัท ฮันคิว อยู่ก่อนแล้ว

"เวลานี้เริ่มมองหาโอกาสในการ ดึงกำลังซื้อจากต่างชาติอย่างจีนเข้ามาซื้อคอนโดในเมืองไทย ที่ผ่านมาตนเดินทางไปฮ่องกงหลายรอบ ซึ่งพบว่าตลาดฮ่องกงนั้นมีการซื้อขายคอนโดไม่ต้องเดินทางมาดูทรัพย์ เพียงแต่ให้รู้ว่าอยู่ทำเลใด ต่างจากเมืองจีนจะต้องจัดทัวร์เพื่อเดินทางมาดูอสังหาฯ ในไทย" เกษรา กล่าว

อธิกา บุญรอดชู ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ ยังคงมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นจากปัจจัยบวก จากกำลังซื้อที่ยังมีอยู่มากโดยเฉพาะตลาดระดับกลางถึงไฮเอนด์ แม้ว่าดอกเบี้ยจะมีแนวโน้มขยับขึ้น แต่จากการที่ภาครัฐปรับตัวเลขจีดีพีทางเศรษฐกิจขึ้นระหว่าง 4.2-4.7% หรืออยู่ที่ 4.5% เป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดเติบโต

ขณะที่ตัวเลขการปฏิเสธสินเชื่อ ในโครงการระดับล่างปัจจุบันอยู่ในระดับ 14% มาจากการกู้สถาบันการเงินไม่ผ่านอยู่ราว 7% ขณะที่โครงการระดับบนอัตราปฏิเสธสินเชื่ออยู่ที่ระดับ 12% ซึ่งมาจากการกู้ไม่ผ่านเพียง 4-5% การปฏิเสธสินเชื่อกลุ่มนี้ส่วนมากมาจาก นักลงทุนยังขายต่อไม่ได้

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้จากการขายการโอนกรรมสิทธิ์ 5,200 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจรูปแบบให้เช่า (Recuring Income) ประมาณ 1,000 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวม 6,200 ล้านบาท เติบโต 20% ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน หรือแบ็กล็อก รวม 8,313 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ 1,796 ล้านบาท ขณะที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ระดับ 1.03 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทมีแผนการเปิดโครงการใหม่ในช่วงที่เหลือของปีอีก 10 โครงการ มูลค่ารวมราว 9,787 ล้านบาท

สำหรับในช่วงเดือน ก.ย. 2561 จะเปิดตัว 3 โครงการ มูลค่ารวม 1,673 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ Kith บางกะดี เฟส 3 โครงการ The Kith Plus พหลโยธิน คูคต เฟส 2 และ Sena Grand Home บางพูน จากนั้นในไตรมาส 4/2561 จะเปิดอีก 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม ราว 8,100 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ Niche Mono บรมราชชนนี โครงการพัทยา เฟสใหม่ โครงการบ้านร่วมฝัน และโครงการร่วมทุนอีก 2 โครงการ เป็นต้น

ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทยังเตรียมเซ็นสัญญาร่วมทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 3,300 ล้านบาท ปัจจุบันมีที่ดินและรูปแบบโครงการรองรับแล้ว แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม มูลค่าราว 2,700 ล้านบาท และโครงการขนาดเล็ก มูลค่า 600 ล้านบาท หลังจากช่วงครึ่งปีแรกเซ็นสัญญาร่วมทุนไปแล้ว 5 โครงการ