posttoday

ลุยพลิกโฉมบึงบางซื่อ เอสซีจียกที่ดินให้ธนารักษ์ เร่งสร้างแหล่งพักผ่อนต้นแบบคนเมือง

23 สิงหาคม 2561

เอสซีจีเดินหน้าโครงการสานพลังประชารัฐ-การพัฒนาพื้นที่บึงบางซื่อ มอบที่ดินให้ธนารักษ์ผลักดันสู่ต้นแบบแหล่งพักผ่อนคนกรุงเทพฯ

เอสซีจีเดินหน้าโครงการสานพลังประชารัฐ-การพัฒนาพื้นที่บึงบางซื่อ มอบที่ดินให้ธนารักษ์ผลักดันสู่ต้นแบบแหล่งพักผ่อนคนกรุงเทพฯ

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี เปิดเผยว่า ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจการอุทิศที่ดินบึงบางซื่อ เพื่อพัฒนาโครงการสานพลังประชารัฐ-การพัฒนาพื้นที่บึงบางซื่อร่วมกับกรมธนารักษ์ เพื่อมุ่งให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนกว่า 800 ชีวิต พร้อมผลักดันสู่ต้นแบบที่อยู่อาศัยชุมชนเมืองและแหล่งพักผ่อนของคนกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ การดำเนินงานในโครงการเป็นไปตามแนวทางที่ตั้งเป้าหมายไว้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนบึงบางซื่อ ทั้งด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนที่จะก่อสร้างที่พักอาศัยจำนวน 197 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 60 ยูนิต อาคารชุดพักอาศัย 4 ชั้น 3 อาคาร รวม 133 ยูนิต และบ้านกลางสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มี ผู้ดูแลอีก 4 ยูนิต

สำหรับงานก่อสร้างทาวน์เฮาส์และบ้านได้รับใบอนุญาตก่อสร้างแล้ว และคาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดไว้คือภายในปี 2562 จากนั้นจะเริ่มก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัย ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ปลายปี 2562 และจะแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ภายในปี 2563 ซึ่งการพัฒนาบึงน้ำสาธารณะจะเริ่มดำเนินการพัฒนาหลังจากชุมชนได้ย้ายเข้าที่อยู่อาศัยใหม่ครบหมดแล้ว ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการพัฒนาร่วมกับกรุงเทพมหานครไม่น้อยกว่า 1 ปี

ขณะที่ความคืบหน้าความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ นั้น สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ได้พิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อเพื่อสร้างบ้านสำหรับชุมชนจำนวน 48 ล้านบาท การรถไฟแห่งประเทศไทยได้พิจารณาอนุญาตให้เช่าที่ดินเพื่อพัฒนาเป็นทางเข้า-ออก และที่จอดรถ สำนักงานเขตจตุจักรได้พิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างทาวน์เฮาส์ ระหว่างนี้เอสซีจียังคงลงพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกับชุมชนเพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างสหกรณ์ พัฒนาศักยภาพคณะกรรมการและคณะทำงาน รวมถึงจัดตั้งกลุ่มออมสัจจะสะสมทรัพย์ ดูแลเยาวชนและผู้สูงอายุ

ด้าน นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับมอบที่ดินจากเอสซีจีแล้ว สำหรับพื้นที่อยู่อาศัยชุมชนกรมธนารักษ์จะให้สหกรณ์เคหสถานบ่อฝรั่งริมน้ำพัฒนา ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่เกิดจากการรวมกลุ่มก่อตั้งของชุมชนในพื้นที่บ่อฝรั่งเช่าระยะยาว 30 ปี โดยกรรมสิทธิ์ของบ้านพักอาศัยจะเป็นของชุมชนผู้เข้าร่วมโครงการ และกรมธนารักษ์จะคิดค่าเช่าที่ดินในอัตราเดียวกับโครงการบ้านมั่นคงในที่ราชพัสดุ สำหรับพื้นที่สวนสาธารณะ กรมธนารักษ์มอบให้กรุงเทพมหานครร่วมกับเอสซีจี และภาคีเครือข่ายอื่นๆ ร่วมกันพัฒนาเป็นบึงน้ำสาธารณะ โดยกรมธนารักษ์จะพิจารณาให้สิทธิแก่องค์กรหรือนิติบุคคลอื่นๆ ทำหน้าที่บริหารจัดการดูแลรักษาพื้นที่