posttoday

เค.อี.กรุ๊ปปั้นบิ๊กโปรเจกต์ ดันเข้ากองรีท-ร่วมทุนต่างชาติ

02 สิงหาคม 2561

เดินหน้าลงทุนครั้งใหญ่ พลิกที่ดินสะสมกว่า 300 ไร่ ผุดบ้านเดี่ยวสุดหรูระดับ 6 ดาว โครงการมิกซ์ยูส

โดย...โชคชัย สีนิลแท้       

ถือเป็นการเดินหน้าลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครั้งใหญ่ของ เค.อี.กรุ๊ป ที่เปิดตัวบิ๊กโปรเจกต์ เป็นบ้านเดี่ยวโครงการบ้านเดี่ยวอัลตราลักซ์ชัวรี่ระดับ 6 ดาว บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม และโครงการมิกซ์ยูส บริเวณสี่แยกถนนประดิษฐ์มนูธรรมและเกษตรนวมินทร์ ควบคู่กัน

การพัฒนาโครงการดังกล่าวมาจากการพลิกหน้าดินที่มีสะสมอยู่ กว่า 300 ไร่ ในย่านดังกล่าว  หลังจาก ศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เค.อี.กรุ๊ป ได้ปลุกปั้น ทายาทรุ่นใหม่ กวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.อี.กรุ๊ป เพื่อมารุกธุรกิจระยะยาวในกลุ่มบ้านหรู ธุรกิจค้าปลีก คอมมูนิตี้ มอลล์ และเทรดดิ้งด้านวัสดุก่อสร้าง

สำหรับโครงการที่จะพัฒนาภายใน 5 ปีข้างหน้า เริ่มจาก 1.การนำโครงการคอมมูนิตี้ มอลล์ เข้ากองทุนอสังหาฯ หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาฯ(Real Estate Investment Trust-REIT) โดยเป็นพันธมิตรร่วมกับ บลจ.บัวหลวง เข้ามาช่วยบริหารจัดการกองทุน โดยมีเป้าหมายระดมทุนมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ภายในไตรมาส 3 ปี 2562 โดยนำคอมมูนิตี้  มอลล์ ที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจ 4 แห่ง ประกอบด้วย คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ หรือซีดีซี, เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา, เดอะคริสตัล พีทีที ชัยพฤกษ์ และเดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ มีพื้นที่ 9 หมื่นตารางเมตร (ตร.ม.) มูลค่า 7,500 ล้านบาท คาดว่าอัตราผลตอบแทนเบื้องต้นจะไม่ต่ำกว่า 7-8% ขณะเดียวกันจะมีการดึงพันธมิตรคอมมูนิตี้ มอลล์ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เข้ามาร่วมโดยมีเป้าหมายจะรวบรวมให้ได้ 2 แสน ตร.ม. เพื่อให้กองรีทมีความน่าสนใจมากขึ้น

"บริษัทมีการระดมทุนรูปแบบใหม่ในเมืองไทย ที่มีการรวมธุรกิจคอมมูนิตี้ มอลล์ ของบริษัท รวมไปถึงของกลุ่มพันธมิตรในประเทศ และในอนาคตจะมีนำการนำคอมมูนิตี้ มอลล์ ที่อยู่ในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี เข้ามาถืออยู่ในกองรีทแห่งนี้ด้วย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในยุคแข่งขันที่ออนไลน์เติบโต จึงต้องมีการพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกให้เป็นพื้นที่สร้างประสบการณ์ ควบคู่กันกับการพัฒนาเทคโนโลยี ควบคู่กับการพัฒนาช่องทางออนไลน์" กวินทร์ กล่าว

พร้อมกันนี้ จะเดินหน้าโครงการบ้านเดี่ยวหรูระดับบน ราคา 60-300 ล้านบาท ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการใหม่ชื่อ คริสตัล โซลานา มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท บนที่ 51 แปลง ขนาดที่ดินรวม 80 ไร่ บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ขึ้นทางด่วน ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 20% และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายใน 1 ปี หลังจากบ้านตัวอย่างก่อสร้างแล้วเสร็จ และในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

"ที่ผ่านมา ราคาที่ดินถนนประดิษฐ์มนูธรรมเติบโตขึ้น 12-15% จากราคาที่ดินในปี 2559 อยู่ที่ 2.5-3 แสนบาท/ตารางวา (ตร.ว.) และในปี 2560 อยู่ที่ 3.5 แสนบาท/ตร.ว. ขณะที่ราคาบ้านที่โครงการคริสตัลพาร์ค เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปี 2549 อยู่ที่ 65 ล้านบาท ปัจจุบันมีการซื้อขายอยู่ที่ 125 ล้านบาท หรือเติบโตกว่าหนึ่งเท่าตัว"

ต่อไปจะเปิดตัวโครงการบ้านหรูมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท/ปี ตามเป้าหมายเป็นผู้นำในตลาดบ้านหรู ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาทำเลเพื่อก่อสร้างบ้านหรูในซอยสุขุมวิท 30 ซอย 50 พื้นที่ในซอยขนาด 2-3 ไร่ พัฒนาจำนวน 10-20 ยูนิต นอกจากนี้ยังพิจารณาบริเวณสาทร เย็นอากาศ กรุงเทพกรีฑา และบางนา หากเป็นพื้นที่นอกเมืองจะซื้อที่ดินขนาด 10 ไร่ขึ้นไป

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ทางกลุ่มธุรกิจเลือกจับตลาดบ้านหรู เพราะฐานประชากรของกลุ่มผู้มีรายได้มั่งคั่ง (High Net worth) ที่มีรายได้มากกว่า 200 ล้านบาท/ครอบครัว ในกรุงเทพฯ มีประมาณ 9.1 หมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจและผู้บริหารระดับสูง ซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์ของฐานกลุ่มนี้เติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปี ถือว่าเติบโตสูงกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

สำหรับโครงการใหญ่สุดท้ายที่วางแผนไว้ จะพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส มูลค่า 5 หมื่นล้านบาท เนื้อที่ 8 แสน ตร.ม. ที่มีทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม คอนโด อาคารจัดงานแสดงสินค้า ศูนย์กลางการขนส่งทางรถทุกรูปแบบ อาคารจอดรถผู้เดินทางรถไฟฟ้าเข้าสู่ถนนสายธุรกิจหลัก ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกระหว่างถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือถนนเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา ตัดถนนเกษตรนวมินทร์ โดยมีแผนจะพัฒนาภายใน 3-5 ปี เป็นช่วงที่รถไฟฟ้าสายสีเทากำลังเปิดใช้งานในปี 2564

ขณะเดียวกันบริษัทยังไม่ได้ปิดโอกาสในการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติที่เริ่มแสดงความสนใจเข้ามา ซึ่งมีทั้งกลุ่มนักลงทุนชาวจีนและญี่ปุ่น แต่ทั้งนี้จะต้องพิจารณาความเหมาะสมว่าควรจะร่วมทุนในโครงการรูปแบบใด โดยเป้าหมายของกลุ่มธุรกิจภายในการรุกธุรกิจใน 3-5 ปีข้างหน้า จะทำให้กลุ่มธุรกิจมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 20% ภายใน 5 ปีจากนี้ หลังจากที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ยราว 10%