posttoday

เปิดเกมรุกต่างชาติ กลยุทธ์เร่งยอดเอพี

23 กรกฎาคม 2561

กำลังซื้อจากต่างชาติให้ความสนใจกับตลาดอสังหาฯเมืองไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผลตอบแทนการลงทุนที่ดีกว่า

กำลังซื้อจากต่างชาติให้ความสนใจกับตลาดอสังหาฯเมืองไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผลตอบแทนการลงทุนที่ดีกว่า

************************

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการพัฒนาอสังหาฯโดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมต้องอาศัยแรงซื้อจากลูกค้าชาวต่างชาติ ซึ่งจะพบว่าในช่วง 2-3 ปี กลุ่มลูกค้าต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ

วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า บริษัทได้นำกลยุทธ์การขยายตลาดต่างประเทศมาใช้มากขึ้น หลังจากสัญญาณกำลังซื้อต่างประเทศนั้นมีทิศทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน และมาเลเซีย เป็นกลุ่มที่มีการซื้อจริง วางเงินดาวน์สูงถึง 25% และไม่ประสบปัญหาทิ้งเงินดาวน์ห้องชุดในโครงการอย่างที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตถึงกำลังซื้อลูกค้าต่างชาติว่าอาจจะเป็นกลุ่มที่สร้างปัญหาจากการไม่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในอนาคตได้

“เราเริ่มทำตลาดต่างประเทศในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยผ่านเอเย่นต์ต่างชาติเข้ามาติดต่อ แต่เริ่มมาทำตลาดจริงจังในปี 2560 ที่ดำเนินงานอย่างเป็นระบบ เริ่มจากไปหาพาร์ตเนอร์จากในประเทศฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น3 ประเทศหลักและเริ่มขยายไปยังตลาดจีน เริ่มจากการนำโครงการไลฟ์ สุขุมวิท 48 ไปขาย ต่อมาคือ ไลฟ์ ลาดพร้าว ไลฟ์ วันไวร์เลส และไลฟ์ อโศกพระราม 9 ซึ่ง 4 โครงการนี้ เน้นไปที่ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน จนมาที่โครงการไลฟ์ อโศกพระราม 9 ที่ไปเจาะตลาดเมืองจีนที่เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ซึ่งพบว่ายอดขายเพิ่มขึ้นมาในไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา”วิทการ กล่าว

ทั้งนี้ สัดส่วนต่างชาติเริ่มจากต่ำกว่า 10% หรือเฉลี่ย 5-10 ยูนิต มาเป็น 25% เมื่อปี 2560 ซึ่งโครงการไลฟ์ ลาดพร้าว ไลฟ์ วันไวร์เลส และไลฟ์ อโศกพระราม 9 ทั้ง 3 โครงการมีสัดส่วนยอดขายต่างชาติ 25% ซึ่งจากเดิมไม่ถึง 10% ในปี 2559 เริ่มมีพนักงานขายของทั้งเอพีและบางกอกซิตี้สมาร์ทที่รับผิดชอบบ้านและคอนโดมือสองออกมาแนะนำสินค้าและโครงการให้กับลูกค้า และปี 2560 นั้นเรียกได้ว่าไปตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง โดยหลักๆ จะใช้เอเย่นต์รายเดียวต่อประเทศ

“ปกติเอเย่นต์จะจัดงานเปิดตัวในโรงแรม มีการแนะนำฝั่งนักพัฒนาอสังหาฯ คนไทยว่าเป็นใคร หลักๆ จะ
ลงไปในรายละเอียดของโครงการมากกว่าว่ามีรูปแบบอย่างไร และภาพรวมให้เขามั่นใจว่าเวลาทำการขายเสร็จแล้วจะทำให้เขามั่นใจได้อย่างไร เหมือนกับการที่คนไทยจะไปลงทุนอสังหาฯ ในต่างประเทศอย่างในลอนดอน เราก็จะไม่รู้หรอกว่านักพัฒนาอสังหาฯ นั้นมีใครบ้าง โครงการไหนอยู่ตรงไหน เวลานำโครงการไปขายต้องอธิบาย เริ่มจากหนึ่งต้องอธิบายถึงทำเล รวมไปถึงจากผลตอบแทนที่ได้ ซึ่งในปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการใหม่ในต่างประเทศโดยเริ่มที่ฮ่องกง ด้วยการนำ 3 โครงการไลฟ์ ลาดพร้าวแวลลีย์ ไลฟ์ อโศก ไฮพ์ และดิแอดเดรส สยาม-ราชเทวี พร้อมต่อยอดจองออนไลน์ AP-i-Booking สู่ตลาดต่างประเทศ” วิทการ กล่าว

สำหรับการนำโครงการไปขายตลาดต่างประเทศนั้น บริษัทจะแบ่งออกเป็นชั้น เช่น นำโครงการมาขาย 2-3 ชั้นต่อโครงการ ปี 2558 นำโครงการมาขาย 80 ล้านบาท ขายได้หมด มาจากประเทศสิงคโปร์ที่เดียวเป็นการไปร่วมกับหลายๆ บริษัทที่มาร่วมออกงาน ถือเป็นการลองผิดลองถูก ปี 2559 ขายได้ 671 ล้านบาท ปี 2560 ขายได้ 4,035 ล้านบาท ปี 2561 ตั้งเป้าขายได้ 4,450 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขในตลาดต่างชาติเฉพาะการโรดโชว์ ไม่นับรวมยอดขายต่างชาติที่เดินทางหรืออยู่อาศัยในเมืองไทยเข้ามาซื้อ

ขยล ตันติชาติวัฒน์ ผู้อำนวยการ บริษัท บางกอกซิตี้สมาร์ท ผู้ดำเนินธุรกิจบ้านมือสองในเครือ เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า พฤติกรรมของลูกค้าต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์นั้นจะแตกต่างกัน อย่างเช่น ถ้าเป็นโซนอโศกจะรู้จัก แต่พอเป็นโซนลาดพร้าวก็จะต้องอธิบายอีกนิดนึง แต่ในทุกปีมุมมองของนักลงทุนจะรู้จักอสังหาฯ ในเมืองไทยมากขึ้น หรืออย่างญี่ปุ่นจะรู้จักสุขุมวิทเป็นหลัก แต่พอนอกทำเลจะต้องใช้เวลาในการอธิบายค่อนข้างยาว ซึ่งรถไฟฟ้าเป็นตัวอธิบายที่ดี ต่างชาติมีพฤติกรรมที่เหมือนกัน คือต้องการอยู่อาศัยใกล้กับรถไฟฟ้า เนื่องจากจะเป็นตัวขับเคลื่อนราคาอสังหาฯ ในอนาคต

“ต่างชาติจะมองว่าเมืองไทยเหมือนกับ 10 ปีที่ผ่านมาของประเทศเขาเป็นช่วงที่อุปทานบูมขึ้นมา ประกอบกับความต้องการหรือดีมานด์ก็บูมขึ้นมารองรับหมดอยู่ดี ต่างชาติก็มองว่าเดี๋ยวก็มีดีมานด์ ประกอบกับรถไฟฟ้าไปถึงทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น”

จะเห็นได้ว่ากำลังซื้อจากต่างชาติให้ความสนใจกับตลาดเมืองไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผลตอบแทนการลงทุนที่ดีกว่าในประเทศตน ขณะที่ราคาคอนโดสูงกว่าในเมืองไทยหลายเท่าตัว