posttoday

ค่าที่ดินรังสิตพุ่ง 3 เท่า หนุนคอนโดแข่งดุ

19 กรกฎาคม 2561

ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในย่านรังสิตในปีนี้ยังคงมี ความคึกคักต่อเนื่อง

โดย...จะเรียม สำรวจ

ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในย่านรังสิตในปีนี้ยังคงมี ความคึกคักต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียม เนื่องจากพฤติกรรมความต้องการของผู้บริโภคในย่านรังสิตค่อนข้างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก คือ หันมาซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการอยู่อาศัยแทนการเช่าอพาร์ตเมนต์มากขึ้น เพราะมองว่าซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองอยู่ดีกว่าเช่า

ดังนั้น ผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ จึง เล็งเห็นโอกาสหันมากว้านซื้อที่ดินในย่านรังสิต เพื่อนำมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ซึ่งจากแนวโน้มดังกล่าวทำให้ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมโครงการใหม่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

ภรณ์ทิพย์ อัคควิบูลย์ กรรมการบริหาร โครงการพูนทรัพย์ คอมเพล็กซ์ บริษัท พูนทรัพย์ รังสิต กล่าวว่า โครงการคอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากทั้งโครงการใหม่และโครงการเก่าที่ปรับจากอพาร์ตเมนต์เป็นคอนโดมิเนียม ส่งผลให้ปัจจุบันตลาดคอนโดมิเนียมในย่านรังสิตเริ่มอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลาย ซึ่งตลาดคอนโดมิเนียมที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ คือ คอนโดมิเนียมระดับล่าง เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อค่อนข้างน้อย หากเกิดตกงานอาจทำให้เกิดปัญหาทางการเงินไม่สามารถผ่อนคอนโดมิเนียมต่อได้

จากความต้องการเข้าไปพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในย่านรังสิตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาที่ดินมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 2-3 เท่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันที่ดินในย่านรังสิตฝั่งขาเข้ามีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ไร่ละประมาณ 30-40 ล้านบาท ขณะที่ฝั่งขาออกมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ไร่ละ 15-20 ล้านบาท

ภรณ์ทิพย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของแผนทำธุรกิจปล่อยพื้นที่เช่าในโครงการพูนทรัพย์ คอมเพล็กซ์ของบริษัทยังคงเดินหน้าหาพันธมิตรใหม่เข้ามาร่วมเช่าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ดึงศูนย์อบรมและโรงเรียนสอนขับรถยนต์เข้ามาเป็นพันธมิตรเพิ่มเติม จากเดิมมีบริษัท ขนส่ง แบรนด์รถยนต์ชั้นนำอย่างฟอร์ด มาสด้า และนิสสัน รวมไปถึงสถานีบริการน้ำมันบางจากเข้ามาเช่าพื้นที่ขยายธุรกิจไปบ้างแล้ว

ปัจจุบันพื้นที่ของโครงการพูนทรัพย์ คอมเพล็กซ์ มีที่ดินทั้งหมด 39 ไร่ ขณะนี้ยังเหลือที่ดินพร้อมพัฒนาต่ออีกประมาณ 8 ไร่ และอยู่ระหว่างการพิจารณาหาพันธมิตรที่มีความเหมาะสมเข้ามาร่วมเช่าพื้นที่ แต่เนื่องจากขณะนี้กำลังซื้อของผู้บริโภคในย่านรังสิตค่อนข้างชะลอตัว เพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวในทิศทางที่ดีมากนัก ผู้บริหารโครงการพูนทรัพย์ คอมเพล็กซ์ จึงยังไม่เร่งพัฒนาที่ดินส่วนที่เหลือต่อ

ภรณ์ทิพย์ กล่าวอีกว่า บริษัทจะเน้นการขยายธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ถ้าหากกลุ่มเซ็นทรัลมีแผนที่จะพัฒนาที่ดินที่ซื้อไว้บริเวณไทยเมลอน บริษัทก็พร้อมที่จะพัฒนาที่ดินส่วนที่เหลือต่อทันที เพราะโครงการขนาดใหญ่ทำให้เมืองขยายตัว ซึ่งหลังจากบริษัทได้พันธมิตรใหม่เข้ามาร่วมพัฒนาโครงการพูนทรัพย์ คอมเพล็กซ์ บริษัทคาดว่า สิ้นปี 2561 นี้จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% อย่างแน่นอน