posttoday

อย่าละเลยงานบริการหลังการขาย

17 กรกฎาคม 2561

ที่ผ่านมายังมีผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จำนวนไม่น้อยที่มองข้ามเรื่องของการบริการหลังการขาย

โดย...ธนันทร์เอก หวานฉ่ำ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ 

ที่ผ่านมายังมีผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จำนวนไม่น้อยที่มองข้ามเรื่องของการบริการหลังการขาย และบางครั้งอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา เนื่องจากการอยู่อาศัยในโครงการบ้านจัดสรรอาจมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภคส่วนกลางของโครงการ

หลังจากที่ผู้จัดสรรได้ปิดการขายแล้วจะต้องส่งมอบโครงการให้กับนิติบุคคล ทั้งนี้ โครงการบ้านจัดสรรหรืออาคารชุดต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-5 ปีในการขาย หากโครงการไม่มีการดูแลรักษาสาธารณูปโภคต่างๆ อาทิ ถนน ท่อระบายน้ำ ฟุตปาท สวน สโมสร ฯลฯ สาธารณูปโภคเหล่านี้จะเสื่อมโทรมชำรุดเสียหาย

ส่งผลให้เกิดปัญหาในการส่งมอบโครงการให้กับนิติบุคคล เพราะถ้าสาธารณูปโภคเสื่อมโทรมชำรุดเสียหายมาก นิติบุคคลมีสิทธิจะไม่รับมอบโครงการ จนกว่าผู้ประกอบการจะซ่อมบำรุงให้มีสภาพที่สวยงามใช้งานได้

ถึงแม้ผู้ประกอบการจะยื่นความประสงค์ต่อคณะกรรมการจัดสรรเพื่อให้ตรวจสอบสาธารณูปโภคในโครงการ หากคณะกรรมการจัดสรรตรวจสอบแล้วพบว่าสาธารณูปโภคต่างๆ อยู่ในสภาพชำรุดใช้งานไม่ได้ ผู้ประกอบการจะต้องรับผิดชอบซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีก่อนส่งมอบให้นิติบุคคล

ซึ่งผู้ประกอบการอาจจะต้องเสียงบประมาณในการซ่อมแซมใหม่ที่สูงมากขึ้น เพราะฉะนั้นจึงเป็นเหตุผลหลักที่ผู้ประกอบการต่างๆ จะต้องให้ความสำคัญในการดูแลรักษาสาธารณูปโภคส่วนกลาง เพื่อให้สิ่งต่างๆ สามารถใช้งานได้ดี เช่น รั้วไม่ล้ม ถนนไม่ทรุดท่อระบายน้ำมีฝาครอบครบ ฯลฯ ถ้าไม่ดูแลเลยนอกจากจะมีปัญหาตอนส่งมอบให้นิติบุคคลแล้ว ก็อาจจะถูกลูกบ้านร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจทำให้โครงการเสียชื่อเสียงก็เป็นได้

นอกจากการดูแลสาธารณูปโภคส่วนกลางแล้ว งานบริการหลังการขายยังมีความสำคัญ ซึ่งจะต้องมีความชัดเจนต่อผู้อยู่อาศัย เช่น การเก็บค่าส่วนกลาง รวมทั้งระยะเวลาที่ผู้ประกอบการต้องดูแลกี่ปี ฯลฯ จะเห็นได้ว่างานบริการหลังการขายเป็นงานที่จุกจิก มีความละเอียดอ่อนจำเป็นที่ต้องใช้บุคลากรที่เข้าใจในงานเฉพาะด้านและเป็นมืออาชีพที่สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี  

ที่สำคัญจะต้องมีความละเอียดและรอบคอบ ที่ผ่านมาผู้ประกอบการไม่ได้ให้ความสำคัญจึงใช้บุคลากรที่ไม่มีความเชี่ยวชาญมาบริหารจัดการงานด้านนี้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาขึ้นได้ในอนาคต  ยกเว้นโครงการจัดสรรขนาดใหญ่ที่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากขึ้น และเลือกใช้บริษัทที่เป็นมืออาชีพเข้ามาทำหน้าที่บริหารจัดการเรื่องการบริการหลังการขายจึงทำให้ปัญหาการอยู่อาศัยในบ้านจัดสรรลดลง

สรุปผู้ประกอบการธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ถ้าไม่อยากให้โครงการของท่านเกิดความเสียหายที่ไม่น่าจะเกิดในภายหลัง ก็ควรอย่าละเลยการบริการหลังการขาย เพราะจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ในการอยู่อาศัยตามมา แนะผู้ประกอบการจัดสรรควรใช้บุคลากรหรือหน่วยงานที่เป็นมืออาชีพและเชี่ยวชาญด้านการบริหารทรัพย์สินเข้ามาจัดการงานบริการหลังการขาย