posttoday

เทคนิคการใช้ชีวิตคอนโด คิดทำภายในจิตให้มีความสุข

23 มิถุนายน 2561

คนเราไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน คอนโดมิเนียมหรือตึกสูง บ้านหรือกระต๊อบ ชีวิตก็มีทั้งสุขทั้งทุกข์คละเคล้ากัน

โดย  แมงโก้หวาน ภาพ : เอพี 

คนเราไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน คอนโดมิเนียมหรือตึกสูง บ้านหรือกระต๊อบ ชีวิตก็มีทั้งสุขทั้งทุกข์คละเคล้ากัน ไม่มีที่ไหนการันตีว่าอยู่แล้วชีวิตจะมีความสุขทุกวันและเสมอไป

บางคนมีเรื่องให้เครียดอยู่บ่อยๆ เดี๋ยวเรื่องนั้น เดี๋ยวเรื่องนี้ วันนี้ตอนเช้าเจอปัญหาเรื่องเงิน ญาติโทรมายืมเงินแต่เช้า ตอนบ่ายเรื่องงาน ถูกหัวหน้ารีพอร์ต อีกอาทิตย์ต่อมาเรื่องแฟน จับได้ว่าแฟนแอบไปมีคนอื่น บางคนเรื่องหนี้ เรื่องธุรกิจ เรื่องเพื่อนร่วมงาน สารพัดปัญหา จึงไม่แปลกใจที่มีข่าวคนโดดตึก โดดคอนโดฆ่าตัวตาย

คนเราเวลาเจอความทุกข์ บางครั้งก็ตีบตันหนทางหรือหาทางออกไม่ได้ พอหาทางออกไม่ได้สุดท้ายก็คิดทำร้ายตัวเอง บางคนมีทุกอย่างแทนที่ชีวิตควรจะมีความสุขกลับมีแต่ความทุกข์และปัญหาเข้ามา ถ้าการใช้ชีวิตเป็นแบบนี้ “น้ำตาล” ประไพศรี ประเสริฐแก้ว ผู้ก่อตั้งเพจครบเครื่องเรื่องอสังหาฯ มีเทคนิคในการใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและมีความสุข ดังนี้

1.วางอดีตไว้ข้างหลัง ชีวิตไม่ได้หมายถึงการมีชีวิตอยู่ในอดีต อยู่ในเวลาที่ล่วงไป สิ่งที่คุณทำได้คือยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น เรียนรู้จากข้อผิดพลาดของคุณและก้าวต่อไป คุณไม่สามารถกระโดดได้อย่างเต็มที่ในอนาคตด้วยขาข้างหนึ่งที่ยังติดอยู่ในอดีต

2.เป็นคุณที่อยากเป็น ไม่ใช่คนที่โลกต้องการให้คุณเป็น เราทุกคนต้องการจะเป็นที่ยอมรับของคนรอบข้าง เราเป็นสัตว์สังคม ไม่แปลกที่จะมีความรู้สึกนี้ แต่ต้องมีความพอดี เพราะการที่เราอยากเป็นที่ยอมรับจนต้องฝืนทำทุกอย่างที่ไม่อยากทำ ท้ายที่สุดแล้วคนอื่นจะขโมยความสุขไปจากคุณได้ ที่แย่ที่สุดคุณจะรู้สึกว่าคุณได้หันหลังให้กับบุคลิกภาพที่สำคัญของคุณ

3.ห่างจากความคิดเชิงลบ น่าพิศวงเรามักเป็นนักวิจารณ์ที่เลวร้ายที่สุดของเราเอง ความคิดเชิงลบสามารถทำให้จิตใจของคุณบ่อนทำลายการกระทำและแผนงานของคุณ การมีศรัทธาในตัวคุณเองเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หากคุณดูถูกความสามารถของตัวเอง แล้วใครจะเห็นความสามารถของคุณ

4.ตรวจสอบชีวิต ชีวิตเป็นมากกว่ากิจวัตรประจำวัน มีคำถามมากมายที่ควรนึกถึง เช่น ความหมายของชีวิตคืออะไร ความหมายของการเป็นมนุษย์คืออะไร ทำไมโลกถึงเป็นอย่างนี้ จุดประสงค์ของการมีชีวิตอยู่ คำถามเหล่านี้นำทางเราเกี่ยวกับการมองอย่างใกล้ชิดกับตัวเอง และโลกรอบตัวเราเพื่อให้เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับความหมายของทุกอย่าง

5.ใส่ใจทุกช่วงเวลา ให้ตระหนักว่าทุกช่วงเวลาของชีวิตค่อยๆ ลื่นไถลไปเฉกเช่นเสียงเข็มนาฬิกาที่เดินอย่างไม่มีวันหยุด เพราะฉะนั้นจงทำสิ่งที่อยากทำ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง ใช้ทุกเวลาที่มีอยู่อย่างชาญฉลาด

6.อย่ากังวลในสิ่งที่คนอื่นคิดถึงคุณ เขาจะมองฉันยังไง ฉันดูเป็นยังไง ในสายตาเขา ถ้าคุณกำลังมีความคิดแบบนี้ นั่นแปลว่าคุณปล่อยให้คนอื่นใช้ชีวิตของคุณไปแล้ว คุณจะมีความทะเยอทะยานน้อยลงและเสี่ยงน้อยลง เพราะต้องการตีกรอบตัวเองให้คนอื่นพอใจเสมอ ชีวิตคุณได้หยุดพัฒนาแล้ว

7.หยุดมองหาการยอมรับจากภายนอก เป็นความปรารถนาของมนุษย์โดยธรรมชาติที่ได้รับการยอมรับ เราทุกคนต้องการให้คนอื่นสังเกตเห็นว่าเราฉลาดหรือมีพรสวรรค์ เมื่อการกระทำของเรามุ่งเน้นไปที่การยอมรับจากผู้อื่นมากเกินไป เราจะให้อำนาจแก่คนอื่น แทนที่จะทำเพื่อความพึงพอใจของเราเอง เลือกสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขและสิ่งที่ทำให้ชีวิตของคุณมีความหมาย คนเดียวที่คุณต้องรับผิดชอบก็คือตัวคุณเอง อย่าปล่อยให้คนอื่นมีอำนาจเหนือการกระทำของคุณ

8.ทำอะไรได้อย่างนั้น ชีวิตคือชุดของทางเลือกของเรา สิ่งที่เราตัดสินใจที่จะทำกำหนดสิ่งที่เราได้รับออกมา ในเวลาว่างถ้าเลือกที่จะนอนดูทีวีทั้งวัน คุณก็จะไม่ได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง ถ้าเลือกที่จะอ่านหนังสือในเวลาว่าง ก็จะได้พัฒนาสมองพัฒนาตัวเองต่อยอดความคิด และอื่นๆ อีกมาก หากถามว่าคุณเป็นอะไร คำตอบอยู่ที่ว่าวันนี้คุณกำลังทำอะไร

9.ยืนหยัดเพื่อตัวเอง บางครั้งเราก็ถูกเอาเปรียบจากคนรอบข้าง เพราะพวกเขากังวลมากเกินไปกับผลประโยชน์ส่วนตัวของตัวเอง หากสิ่งที่พวกเขาทำส่งผลกระทบต่อคุณ อย่าปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ยืนขึ้นด้วยตัวคุณเองและบอกคนอื่น เมื่อพวกเขากำลังทำอะไรผิดพลาด ถ้าคุณไม่ปล่อยให้คนรอบตัวคุณรู้ว่าคุณต้องการอะไรพวกเขาจะไม่มีวันรู้

10.ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด คนที่เข้มแข็งพอที่จะรับมือกับความผิดพลาดและความล้มเหลว ก็คือคนที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตของตนเองเสมอ หากมัวแต่หลีกเลี่ยงความสูญเสีย คุณจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและลดศักยภาพของคุณลงโดยไม่รู้ตัว อย่ากลัวที่จะประสบกับความล้มเหลว หากทำเต็มที่แล้ว อย่าได้เสียใจ