posttoday

โกลเด้นแลนด์บุกหนัก ดึงกำลังซื้อตลาดบ้านหรู

21 มิถุนายน 2561

การจะเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดบ้านเดี่ยวนั้นต้องปักธง กลุ่มสินค้าบ้านหรูระดับราคา 100 ล้านบาทขึ้นไปให้ได้

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจะเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดบ้านเดี่ยวนั้นต้องปักธง กลุ่มสินค้าบ้านหรูระดับราคา 100 ล้านบาทขึ้นไปให้ได้ เพราะถือเป็น กลุ่มสินค้าสร้างชื่อ หรือทอล์กออฟเดอะทาวน์ แม้ว่ารายได้หลักจะมาจากกลุ่มบ้านระดับกลางลงล่างก็ตาม

วิรัชต์ มั่นเจริญพร กรรมการ ผู้จัดการสายงานพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพ เพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ "โกลเด้นแลนด์" เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดบ้านหรูในปี 2561 คาดว่าจะยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโซนบางนา ปิ่นเกล้า และพระราม 2 ที่มีการพัฒนาโครงการบ้านหรูอย่างเช่น ทำเลบางนานั้นจะได้รับอานิสงส์อย่างมาก จากการที่รัฐบาลได้ส่งเสริมการลงทุนอย่างจริงจังในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ส่งผลให้มีการพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่เกิดขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าการสร้างรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ส่งผลให้ราคาที่ดินมีการปรับตัวสูงขึ้น

ขณะที่ทำเลปิ่นเกล้าและพระราม 2 จะเป็นเฉพาะเรื่องของทำเลราคาที่ดินในโซนปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์ เติบโตไป 30% ต่อปี เช่น เดิมราคาแปลงละ 8 ล้านบาท แต่ขณะนี้การจะหาที่ดินราคา 12 ล้านบาท ยังเป็นเรื่องหายาก ทำให้การพัฒนาโครงการ บ้านหรูต้องขยับมาทำเลพุทธมณฑล

หากจะพิจารณาภาพรวมตลาดบ้านหรูในกลุ่มราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป ในทำเลปิ่นเกล้าและราชพฤกษ์ คาดว่า ปีนี้จะชะลอตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2560 ที่เติบโตลดลงประมาณ 10% ยอดขายอยู่ที่ 4,053 ล้านบาท ต่างกับปี 2559 ที่ขยายตัวสูงถึง 30% ยอดขายรวมในตลาดอยู่ที่ 4,520 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าปี 2557-2558 ที่ลดลงติดลบ 4% มียอดขาย 3,473 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะส่งผลให้ตลาดบ้านหรูมีทิศทางที่เป็นบวก มีทั้งเรื่องของความชัดเจนจัดการเลือกตั้ง แนวโน้มการลงทุนในตลาดทุน รวมถึงตัวของผู้ประกอบการก็มีส่วนในการขับเคลื่อนของดีมานด์ใหม่ให้เกิดขึ้น

ทั้งนี้ จากการสำรวจของบริษัทพบว่า ปริมาณบ้านหรูที่อยู่ระหว่างการขายในโซนราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า ประมาณ 7 โครงการ มูลค่าโครงการกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท แยกเป็นกลุ่มบ้านหรูราคา 20 ถึงไม่เกิน 25 ล้านบาท จำนวน 3 โครงการ ประมาณ 270 ยูนิต มูลค่าประมาณ 5,400 ล้านบาท และราคาเกิน 25 ล้านบาท จำนวน 4 โครงการ 327 ยูนิต มูลค่าประมาณ 8,175 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าโครงการระหว่างการขายในแต่ละปีจะไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากระยะการพัฒนาโครงการจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี และในแต่ละปีผู้ประกอบการจะมีการเปิดการขายใหม่เพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม บริษัทวางเป้ายอดขายตามรอบบัญชีใหม่ (ต.ค. 2560-ก.ย. 2561) ประมาณ 4,100 ล้านบาท เติบโตประมาณ 25% เมื่อเทียบกับตัวเลข 3,300 ล้านบาท ของปีก่อนหน้า

ในปีนี้ตามแผนจะมีการเปิด 4 โครงการบ้านหรูใหม่ มูลค่า 5,300 ล้านบาท จากกลุ่มตลาดหลักของบ้านเดี่ยวจะอยู่ระดับราคา 8-12 ล้านบาท ส่วนราคาระดับล่างภายใต้แบรนด์บลิซ (BLISS) ราคา 5-7 ล้านบาท สำหรับโครงการเดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า เป็นโครงการเดิมของบริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน หรือเคแลนด์ ที่บริษัทรับโอนพอร์ตโครงการเข้ามาทั้งหมดหลังเข้าไปซื้อหุ้น 100% โดยปัจจุบันพอร์ตโครงการบ้านหรูคงเหลือเพียงโครงการเดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า ส่วนโครงการที่พระราม 2 มียูนิตเหลือขายเพียงเล็กน้อย

"หลังจากที่บริษัทเข้ามาได้มีการปรับปรุงรูปแบบโครงการจากสไตล์ โมเดิร์นมาสู่รูปแบบซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ไม่ว่าจะเป็นการใส่เงิน 30 ล้านบาท ในการสร้างซุ้มโครงการให้สวยและหรู ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจถึงตัวโครงการการเลือกที่จะลงแบบบ้าน Palacio de San Telmo ที่โครงการ เพราะเป็นโครงการบ้านหรูอยู่ติดถนนใหญ่บรมราชชนนี รู้จักกันดีสำหรับกลุ่มลูกค้าบ้านพรีเมียม"

โครงการดังกล่าวมีเนื้อที่รวม 190 ไร่ จำนวน 344 ยูนิต มูลค่ารวม 6,800 ล้านบาท ภายในแบ่งเป็น 2 โครงการ คือ เดอ ไพน์ บ้านระดับราคา 15-25 ล้านบาท เป็นหลัก และแบบอัลพิน่าบ้านระดับราคา 25 ล้านบาท จนถึงระดับราคา 120 ล้านบาท

"ปัจจุบันพอร์ตบ้านหรูของเคแลนด์เหลืออยู่ในพอร์ตแค่โครงการนี้ หลังจากบริษัทได้เร่งบริหารจัดการโครงการต่างๆ ซึ่งก็มียอดขายที่ดี โดยโครงการเดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า เราเอาแบบใหม่เข้ามาใส่หมดอย่างแบบเดอ ไพน์ จะเป็นสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก แต่ถ้าเป็น อัลพิน่าจะเป็นสไตล์สแปนิช คอร์ทยาร์ด พูล วิลลา ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร โดยขณะนี้โครงการมียอดขายแล้ว 10%"

สำหรับกลุ่มที่มาซื้อจะมีอายุ 45 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่มีลูก 2-3 คน เป็นเจ้าของโรงงานและค้าขายขนาดใหญ่รายได้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท และมีเงินออกไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะมีที่บ้านพักอาศัยและทำงานอยู่ในย่านทวีวัฒนา เขตพุทธมณฑล สาย 4-7 เขตกระทุ่มแบน สามพราน นครชัยศรี หากอยู่ในกรุงเทพฯ จะอยู่ในเขตพระนคร สัมพันธวงศ์ ป้อมปราบ ยานนาวา ธนบุรี คลองสาน บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ เป็นหลัก

วิรัชต์ ย้ำว่าจุดแข็งในการพัฒนาบ้านหรูนั้นอยู่ที่ทำเลที่ต้องสะดวกในการเดินทาง ใกล้กับสาธารณูปโภคต่างๆ ฟังก์ชั่นและสิ่งอำนวยความสะดวกครบตรงกับความต้องการลูกค้า และราคาที่ซื้อแล้วคุ้มค่า เช่น มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่รอบตัวบ้าน รวมไปถึงการเลือกใช้สุขภัณฑ์แบรนด์ดังอย่าง อาร์มานี ร็อกคา

แม้ว่าเทรนด์ของบ้านระดับหรูมีแนวโน้มอยู่บนที่ดินที่มีขนาดเล็กลง แต่สิ่งสำคัญต้องมีฟังก์ชั่นที่ครบครัน มีพื้นที่ใช้สอยที่มากพอสำหรับกลุ่มบ้านในระดับราคาสูง เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่มองหาบ้านในระดับนี้จะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่ต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุด