"อนันดา"ลั่นชิงทำเลทอง รับทำเลแนวรถไฟฟ้าเพิ่ม

เมกะโปรเจกต์ รถไฟฟ้า ดันทำเลทองขยาย ชานเมืองรุ่ง อนันดาฯ มุ่งพัฒนาโครงการใหม่ชิงตลาด

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี (2560-2579) วงเงินรวมกว่า 8.95 แสนล้านบาท ทั้งรถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง รถไฟทางคู่ ทางด่วนและมอเตอร์เวย์ ทำให้ทำเลทองของอสังหาริมทรัพย์ขยายตัว

ทั้งนี้ โดยเฉพาะทำเลตามแนวรถไฟฟ้าที่เริ่มขยายออกนอกเมือง ปีนี้คาดว่ากรุงเทพฯ จะมีรถไฟฟ้า 5 สาย 87 สถานี รวมระยะทาง 121.6 กิโลเมตร ขณะที่ปี 2570 เป็นปีสุดท้ายในแผนพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ จะมีรถไฟฟ้าเพิ่มเป็น 11 สาย รวม 297 สถานี โดยปริมาณรถไฟฟ้าและสถานีจะเพิ่มขึ้น 4 เท่าตัว

สำหรับทำเลที่น่าสนใจและมีศักยภาพ เช่น ย่านสมุทรปราการ ปลายสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว นอกจากกำลังซื้อในประเทศยังมีกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มจีน-ฮ่องกง จีน-ไต้หวัน เข้ามาจับจองมากขึ้น โดยอนันดาฯ มีแผนพัฒนาโครงการใหม่ๆ ขึ้นมารองรับความต้องการของลูกค้าเหล่านี้

“ตลาดอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้ายังคงเป็นทำเลทอง ยิ่งกลางเมืองราคาที่ดินยิ่งพุ่งสูงขึ้นมหาศาล ผู้ประกอบการต้องระมัดระวังเรื่องดีมานด์กับซัพพลาย การพัฒนาโครงการจะยิ่งยากขึ้น ภายใน 5 ปี จะยิ่งเห็นภาพชัดเจนว่าใครเป็นผู้เล่นตัวจริง” นายชานนท์ กล่าว

สำหรับอนันดาฯ ถือว่าเป็นความท้าทาย และมุ่งมั่นสู่ Urban Living Solutions นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าผู้อยู่อาศัยอย่างแม่นยำ ตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้าง การบริการหลังการขาย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และมุ่งปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจสู่ UrbanTech โดยเฉพาะเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)

“มีการคาดการณ์ว่าเอไอจะช่วยให้เศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วขยายตัวถึง 1.7 เท่า ในปี 2578 ปัจจุบันเอไอเข้ามาเกี่ยวข้องหลายวงการ ทั้งแวดวงการเงิน การแพทย์ และแวดวงธุรกิจ มีการใช้เอไอจัดเก็บข้อมูลเพื่อรับทราบพฤติกรรมมนุษย์ และนำไปสู่การนำเสนอสินค้าได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย” นายชานนท์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังคาดว่าในระยะเวลา 5-10 ปีจากนี้ เทคโนโลยีจะมีความก้าวหน้าและพัฒนาอย่างรวดเร็ว และจะเข้ามาบูรณาการการใช้ชีวิต สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยประหยัดเวลา มีนวัตกรรมที่ช่วยดูแลสุขภาพ ช่วยดูแลเด็กและผู้สูงอายุ เรียกว่าเทคโนโลยีจะเข้าไปมีบทบาทในทุกแง่มุมของการใช้ชีวิต ทำให้บริษัทวางยุทธศาสตร์การลงทุนและแผนการดำเนินงานโดยการปรับตัวและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด