posttoday

'ออริจิ้น' ลุยไตรมาสแรก เปิดคอนโด 3 ทำเลฮอต

01 มีนาคม 2561

ไตรมาสแรกปีนี้ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้เปิดตัว 3 โครงการใหม่ใน 3 ทำเล

โดย...อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

ศักยภาพทำเลที่ตั้งโครงการยังคงเป็นจุดขายที่สำคัญของดีเวลลอปเปอร์ นอกเหนือจากราคาและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มาเสริม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการหวังชิงมาร์เก็ตแชร์ของตลาดที่กำลังเติบโตในขณะนี้

พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2561 ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีการเติบโตดีสอดคล้องกับเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นตามจีดีพี หากโตได้มากกว่า 3.5% ตลาดอสังหาฯ โดยรวมจะเติบโตขึ้นเฉลี่ย 5-10% คาดว่าปีนี้ยอดขายอสังหาฯ จะขยับราว 4.3-4.4 แสนล้านบาท จากปีที่แล้วอยู่ที่ 4.2 แสนล้านบาท โดยจำนวนนี้เป็นลูกค้าต่างชาติถึง 20%

สำหรับไตรมาสแรกปีนี้บริษัทได้เปิดตัว 3 โครงการใหม่ใน 3 ทำเล ได้แก่ 1.ไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน 2.ไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม 9 และ 3.ไนท์บริดจ์ คอลลาจสุขุมวิท 107 มูลค่าโครงการรวมกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งพัฒนาภายใต้แนวคิด Duo Space ที่มีความโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบใช้งานแนวตั้งให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทุกพื้นที่ใช้สอยใช้งานจริงอย่างคุ้มค่ามีเพดานสูงถึง 4.2 เมตร เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย เป็นต้น ทั้งนี้ มุ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตของตลาดเรียลดีมานด์

ทั้งนี้ พบว่าศักยภาพของแต่ละทำเลนั้นมีความโดดเด่น เช่น ทำเลอโศก-พระราม 9 ถือเป็นทำเลใจกลางย่านธุรกิจใหม่ (New CBD) ซึ่งเป็นทั้งแหล่งงาน แหล่งที่อยู่อาศัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเป็นย่านที่ผู้บริโภคมีรายได้เฉลี่ย 7.5 หมื่น-1.2 แสนบาท/เดือน

“ตลาดอสังหาฯ ในย่านนี้มีแนวโน้มที่จะมีการพัฒนาอีกมาก โดยเฉพาะฝั่งพระราม 9-ดินแดง เนื่องจากมีดีมานด์จากต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน โดยผลกำไรส่วนต่างจากการขายอสังหาฯ (Capital gain) มีการปรับขึ้นทุกปีเฉลี่ยปีละ 4.6-11% ส่วนผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5-6.3%” พีระพงศ์ กล่าว

ในส่วนของทำเลรัชโยธินที่เป็นย่านที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตพาดผ่านและในอนาคตจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอีกด้วย ส่งผลให้ราคาที่ดินในทำเลแยกรัชโยธิน-แยกเกษตรมีการขยับขึ้นมากกว่า 20% ในปีที่ผ่านมาและเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว ในช่วง 2 ปี ในส่วนของผลกำไรส่วนต่างจากการขายอสังหาฯ มีการปรับขึ้นราว 10% ต่อปี ทั้งนี้ ทำเลตั้งแต่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว-สะพานใหม่ มีการเข้ามาของดีเวลลอปเปอร์เป็นจำนวนมาก

ขณะที่ทำเลแบริ่งเป็นทำเลศักยภาพที่มีอัตราการขายอสังหาฯ ดีต่อเนื่องสูงกว่า 70% ตลอด 5 ปี โดยผลกำไรส่วนต่างจากการขายอสังหาฯ ปรับขึ้นทุกปีเฉลี่ยปีละ 5-6% ส่วนผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ราว 7%

อย่างไรก็ดี เนื่องจากจะมีโครงการขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟทางคู่ขนาดเบาช่วงบางนา-สุวรรณภูมิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และแบงค็อก มอลล์ เป็นต้น โครงการเหล่านี้จะส่งผลให้ที่ดินทำเลนี้มีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต

ด้าน อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า สำหรับรายละเอียด 3 โครงการ ได้แก่ โครงการไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม 9 มูลค่าโครงการกว่า 2,300 ล้านบาท ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2 ไร่ บนถนนดินแดง พัฒนาเป็นอาคารสูง 27 ชั้น 1 อาคาร 325 ยูนิต ขนาดห้อง 23-57 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาเริ่มต้นที่ 4.69 ล้านบาท

ตามด้วยโครงการไนท์บริดจ์ สเปซรัชโยธิน ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 2 ไร่ ใกล้แยกรัชโยธินมูลค่าโครงการกว่า 2,700 ล้านบาท เป็นอาคารสูง 33 ชั้น 1 อาคาร 488 ยูนิต ขนาดห้องพัก 22-61 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 4.59 ล้านบาท

ด้านโครงการไนท์บริดจ์ คอลลาจ สุขุมวิท 107 ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 1 ไร่ ในซอยสุขุมวิท 107 เป็นอาคารสูง 28 ชั้น จำนวน 1 อาคาร  304 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ขนาดห้องพัก 23-61 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.29 ล้านบาท

อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้ง 3 โครงการดังกล่าวบริษัทจะเปิดให้จองสิทธิผ่านระบบออนไลน์ถึงวันที่ 7 มี.ค. 2561 และเปิดจองจริงตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.นี้ ปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจแล้วกว่า 1,000 ราย โดยบริษัทตั้งเป้ายอดจองผ่านออนไลน์ 30% หรือ 300 ยูนิต

พร้อมกันนี้เตรียมเปิดพรีเซลในวันที่ 24 มี.ค.นี้ โดยตั้งเป้ายอดขายรวมทั้ง 3 โครงการราว 70% หรือ 4,200 ล้านบาท ภายในเดือน มี.ค. 2561 จากนั้นจะมีการปรับราคาขายเพิ่มขึ้นอีก 2-3% สำหรับทั้ง 3 โครงการจะเริ่มก่อสร้างปลายปีนี้และจะแล้วเสร็จปลายปี 2563 ขณะที่สต๊อกพร้อมขายของบริษัทขณะนี้มีราว 2,000 ล้านบาท